Big West เปิดฉาย OVA Macross Flash Back 2012 หลังประกาศร่วมมือกับทาง Harmony Gold ในการจัดจำหน่าย Macross ทั่วโลก

Share

เว็บไซต์ท่าทางการของเฟรนไชส์ Macross ได้ยืนยันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 เมษายน ปี 2021 ว่า Big West จะทำการดูแลการปล่อยผลงาน Macross ทุกภาคที่ถูกสร้างมาตั้งแต่ปี 1987 รวมไปถึงภาพยนตร์อนิเมะ Gekijouban Macross Delta: Zettai LIVE!!!!!! และงานอื่นๆ ในอนาคต และทาง Big West จะทำการควบคุมการปล่อยสินค้ากลุ่ม เกม, ของเล่น, งานแสดงคอนเสิร์ต, และเนื้อหากับสินค้าประเภทอื่นๆ อีกด้วย

และในช่วงนี้ ทาง Big West ได้เปิดฉาย OVA ภาคThe Super Dimension Fortress Macross: Flash Back 2012 ที่เป็นการนำเอาเพลงจาก Macross ภาคแรกมาตัดต่อใหม่เป็นตอนยาว ทาง YouTube โดยตัว OVA ดังกล่าวจะเปิดให้ฉายให้รับชมฟรีแบบจำกัดเวลาเท่านั้น

ผู้สร้าง Macross คุณ Kawamori Shoji ได้กล่าวว่า ‘สำหรับผู้สร้างอย่างผม, งานของพวกเราจะมีชีวิตขึ้นมาได้เมื่อมีผู้คนมารับชม ดูเหมือนว่าเวลาจะเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว หลังจากหยุดนิ่งมานานหลายปี’ เขายังพิมพ์ทวิตเสริมไว้ว่า ‘ผมคิดว่าอุโมงค์นี้จะไม่สิ้นสุด และไม่มีวันเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ แต่ในที่สุดผมก็ได้เห็นแสงอรุณรุ่งหลังจากข้ามพื้นกลางคืนเอันแสนยาวนาน’

อาจารย์ Mikimoto Haruhiko ผู้ออกแบบตัวละครดั้งเดิมได้แสดงความเห็นว่า ‘ในความเห็นส่วนตัวแล้ว ผมรู้สึกผิดหวัง ไม่เพียงแค่ความจริงที่ผู้คนทั่วโลกถูกขัดขวางการเข้าถึงอนิเมะเรื่องนี้, แต่รวมถึงภาพการดีไซน์, ภาพวาดประกอบ, และตัวมังงะที่ถูกสร้างขึ้นจากผู้คนที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ผมรู้สึกดีใจที่ได้ยินว่าสถานการณ์ได้คลี่คลายมากพอที่ผู้ชมทั่วโลกจะได้เข้าถึงเนื้อหาทุกอย่างเหล่านี้แล้ว’

Big West, Studio Nue, และ Harmony Gold USA ได้ทำการประกาศในช่วงต้นเดือนเมษายน ปี 2021 ว่า ทั้งสามบริษัทได้ตกลงที่จะทำการจัดจำหน่าย Macross ทุกภาคทันที ไม่ว่าจะเป็น ซีรีส์ หรือ ภาพยนตร์ภาคต่อ Big West, Studio Nue, และ Harmony Gold USA ได้ทำการประกาศข้อตกลงในการจัดจำหน่าย Macross และภาคต่ออื่นๆ ทั้งฉบับซีรีส์และภาพยนตร์ทันที โดยมีการเซ็นเอกสัญญาตกลงกันเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา และมีการยืนยันว่าทาง Big West จะไม่ทำการ ‘ขัดขวางการจัดจำหน่ายภาพยนตร์ Robotech ฉบับคนแสดงที่อยู่ในขั้นตอนการสร้างในประเทศญี่ปุ่น’

เบื้องหลัง

Studio Nue ได้เริ่มต้นเฟรนไชส์ Macross ด้วยการฉาย The Super Dimension Fortress Macrss ในปี 1982 อนิเมะเรื่องดังกล่าวเล่าเรื่องโดยใช้ธีม รักสามเส้า, ดนตรี, และยานรบแปลงร่างได้ ทาง Studio Nue ได้ร่วมมือกับทางบริษัทโฆษณา Big West และได้ทาง Tatsunoko Production เป็นผู้ร่วมผลิตงานอนิเมชั่น

เฟรนไชส์ Macross ได้ถูกสร้างภาคต่อเป็นซีรีส์โทรทัศน์อีกสามภาค (Macross 7, Macross Frontier, และ Macross Delta) ภาพยนตร์หลายภาค, และ OVA อีกจำนวนไม่น้อย Macross ภาคล่าสุดก็คือ Macross Delta ที่ออกฉายในช่วงเดือนเมษายน ถึง เดือนกันยายน ปี 2016 และกำลังจะมีภาพยนตร์ Macross Delta ภาคใหม่ กับ OVA ตอนสั้นของ Macross Frontier ออกฉายในปี 2021 นี้

ต่อมาทาง Tatsunoko ได้ขายสิทธิ์หลายประการของอนิเมะ Macross, Mospeda และ Southern Crss ให้กับทาง Harmony Gold USA เมื่อปี 1984 ซึ่งทาง Harmony Gold ได้นำเอาอนิเมะทั้งสามเรื่องมาเขียนบทและตัดต่อใหม่เป็นซีรี่ส์ Robotech ความยาวจำนวน 85 ตอน ออกฉายในปี 1985 หลังจากนั้นทาง Harmony Gold ก็ทำการฉายภาคต่อ Robotech II : The Sentinels ในปี 1986 และ Robotech : The Shadow Chronicles ในปี 2006

ทาง Harmony Gold USA ได้ทำการเซ็นสัญญาสร้างภาพยนตร์คนแสดงมาแล้วถึงสองครั้ง: ครั้งแรกในปี 2007 กับทาง Warner Brothers ก่อนจะเซ็นอีกครั้งในปี 2016 กับทาง Columbia Pictures นับตั้งแต่การเซ็นสัญญาพัฒนาภาพยนตร์คนแสดงก็ยังไม่มีหนังเรื่องใดๆ ออกมาฉาย แต่ทางเว็บไซต์ Deadline ได้ออกรายงานเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า Jason Fuchs ผู้เขียนบท Wonder Woman กำลังทำการเขียนบทให้กับภาพยนตร์ Robotech อยู่

จากการตกลงในปี 1991 ทาง Tatsunoko ได้ขยายสิทธิ์กับทาง Harmony Gold ที่จะสามารถใช้ประโยชน์จาก มาครอส จำนวน 36 ตอน, มอสปีด้า จำนวน 25 ตอน และ เซาท์เทิร์นครอส จำนวน 23 ตอน เป็นจำนวนเวลาสิบปี ก่อนที่จะมีการตกลงยืดระยะเวลาออกไปในปี 1998, ปี 2002, และ ปี 2019

กรณีของ Big West

ในช่วงปี 1998 บริษัทด้านโฆษณาและเป็นผู้ร่วมผลิต มาครอส อย่าง Big West ได้ยื่นฟ้องทาง Tatsunoko ด้วยรายละเอียดทีว่าทาง Tatsunoko ไม่ใช่ผู้ที่มีสิทธิ์ทำภาคต่อของ Macross ซึ่งในปี 2003 ทางศาลของประเทศญี่ปุ่นได้ตัดสินให้ผลประโยชน์แก่ทาง Tatsunoko โดยกล่าวว่าทาง Tatsunoko สามารถมอบสิทธิ์ให้กับทาง Harmony Gold ได้ แต่ทาง Big West จะเป็นเจ้าของสิทธิ์ 41 ดีไซน์ดั้งเดิมที่ออกแบบไว้กับ Macross ภาคแรก

ผลจากการตัดสินเช่นนี้ ทำให้การยืดสิทธิ์ของทาง Tatsunoko กับทาง Harmony Gold ใน ปี 1998 ที่รวมไปถึงการสร้างภาคต่อของอนิเมะทั้งสามเรื่องนี้กลายเป็นข้อกังขาขึ้นมา แต่เมื่อมีการต่อสัญญาในปี 2002 ข้อตกลงในปีนั้นนับเฉพาะในส่วนของ มอสปีด้า กับ เซาท์เทิร์นครอสเท่านั้น ก่อนที่จะมีการทำข้อตกลงเพิ่มเติมในปี 2003 ให้ทาง Harmony Gold สามารถทำเนื้อหาสืบเนื่องจาก มาครอส ได้ ยกเว้นในส่วนที่ทาง Big West เป็นผู้ถือสิทธิ์ในการออกแบบไว้ ซึ่งทาง Tatsunoko ได้ส่งเรื่องให้ศาลเพื่อแย้งข้อสัญญานี้ แต่ศาลยกคำฟ้องไป

และผลพวงจากเปิดศึกทางกฎหมายของ Big West ทำให้ทาง Tatsunoko ร้องขอให้ทาง Harmony Gold เข้าทำการดูแลเครื่องหมายการค้า ‘Macross’ นอกเกาะญี่ปุ่น ซึ่งทาง Harmony Gold จะได้ลดค่าธรรมเนียมจากค่าลิขสิทธิ์ที่จะต้องจ่ายให้ Tatsunoko จากกรณีนี้ ซึ่งทาง Tatsunoko ได้ยื่นแย้งเรื่องนี้ต่อศาลในภายหลัง แต่ศาลก็ยกประโยชน์ให้ Harmony Gold

Source: Macross portal site

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*