เว็บไซต์ทางการของภาพยนตร์ Mirai No Mirai ของ Studio Chizu กับ Hosoda Mamoru ได้เปิดเผยเมื่อวันพฤสบดีที่ผ่านมาว่า ตัว Hosoda จะเป็นผู้เขียนนิยาย Mirai No Mirai ด้วยตัวเอง และทาง Kadokawa จะจัดทำนิยายทั้งหมดสามเวอรชัน ในรูปแบบเล่มฝั่งวรรณกรรมของ Kadokawa Bunko จะวางจำหน่ายในวันที่ 15 มิถุนายน ตามด้วยรูปแบบเล่มฝั่งนิยายสำหรับเด็กและเยาวชนของ Kadokawa Tsubasa Bunko วางจำหน่ายในวัน 30 มิถุนายน และรูปแบบเล่มไลท์โนเวลของ Kadokawa Sneaker Bunko วางจำหน่ายในวันที่ 1 กรกฎาคม
ด้านล่างนี้เป็นตัวอย่างหนังตัวที่สองที่เปิดฉายมาตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน ที่ผ่านมา
ภาพยนตร์จะมีรอบปฐมทัศน์โลกในส่วน Directors’ Fortnight ซึ่งจัดในหมวดการฉายหนังอิสระของเทศกาลภาพยนตร์นานานชาติเมืองคานส์ ซึ่งงานส่วนดังกล่าวจะเปิดงานในวันที่ 9-19 พฤษภาคม ในขณะที่ตัวงานเทศกาลภาพยนตร์นานานชาติเมืองคานส์
ภาพยนตร์จะออกฉายปกติในญี่ปุ่นวันที่ 20 กรกฎาคม เลื่อนจากกำหนดเดิมที่เคยจะฉายในช่วงเดือนพฤษภาคม ตัวภาพยนตร์มีความยาว 100 นาที
ทางทีมงานยังได้เผยภาพวิชชวลสำหรับการฉายในต่างประเทศออกมาด้วย:
นักพากย์ของ Mirai No Mirai ประกอบไปด้วย:
(เรียงจากซ้ายไปขวาตามภาพด้านบนชื่อเรื่องภาษาญี่ปุ่น)
- Moka Kamishiraishi รับบท Kun-chan
- Haru Kuroki รับบท Mirai-chan
(เรียงจากซ้ายไปขวาตามภาพด้านล่างชื่อเรื่องภาษาญี่ปุ่น)
- Yoshiko Miyazaki รับบท คุณย่า/คุณยาย
- Gen Hoshino รับบท พ่อ
- Koji Yakusho รับบท คุณปู่/คุณตา
- Kumiko Asou รับบท แม่
- Mitsuo Yoshihara รับบท ชายลึกลับ
Tatsuro Yamashita ร้องเพลงเปิด ‘Mirai No Theme’ (ที่อยู่ในตัวอย่างหนัง) และอีกหนึ่งเพลงที่ยังไม่ประกาศชื่อ
ผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์นานาชาติอย่าง Charades ได้เคยนำเสนอภาพยนตร์เรื่องนี้ในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ครั้งที่ผ่านมาซึ่งจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมปี 2017 และขายสิทธิ์การฉายให้กับ GKIDS ในสหรัฐอเมริกา, MK2 Mile End ในแคนาดา, Anime Limited ในสหราชอาณาจักร และ Madman Entertainment สำหรับออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ณ วันที่ 17 เมษายน หนังมีกำหนดฉายใน 86 ประเทศทั่วโลก ตัวโปรดิวเซอร์ Yuichiro Saito เคยกล่าวว่าการขายสิทธิ์ครั้งนี้จะเป็นสิทธิ์แบบฉากในโรงภาพยนตร์ก่อนและจะมีสิทธิ์ออกอากาศทางทีวีกับฉายออนไลน์ด้วย
ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับครอบครัวที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กในเมืองแห่งหนึ่งที่สามารถหาเจอได้ทั่วไป ลูกชายวัยสี่ขวบที่ถูกตามใจจนเคยตัวอย่าง คุนจัง กำลังจะมีน้องสาวที่ชื่อ มิไร ที่ทำให้เด็กชายรู้สึกว่าโดนน้องสาวขโมยความรักที่พ่อแม่เคยมีให้เขาไป และมีความรู้สึกอื่นๆ มากมายที่เขาได้พบเป็นครั้งแรกในชีวิตนนี้ ระหว่างที่สับสนด้วยอารมณ์อันหลากหลายเขาก็ได้พบกับ มิไร ที่เดินทางมาจากยุคอนาคต
Hosoda เคยเปิดเผยว่าฉากของเรื่องจริงๆ อยู่ในพื้นที่โยโกฮาม่า “ที่ไหนสักแห่งทางตอนเหนือของ อิซาโกะ กับ คานาซาว่า” ซึ่งเขาไม่ได้ระบุว่าสถานที่จะสำคัญอย่างไรกับเนื้อเรื่องในภาพยนตร์ แต่สถานที่เป็นสถานที่แห่งความทรงจำของครอบครัวในภาพยนตร์เรื่องนี้
Hosoda รับหน้าที่เป็นผู้กำกับและผู้เขียนบทของภาพยนตร์เรื่องนี้ กับการผลิตภายนตร์กับทาง Studio Chizu โดยที่ Hiroyuki Aoyama ผู้กำกับอนิเมชั่นเหมือนกับภาพยนตร์เรื่องอื่นของ Hosoda อย่าง Wolf Children คู่จี๊ดชีวิตอัศจรรย์ และ The Boy and the Beast ศิษย์มหัศจรรย์กับอาจารย์พันธุ์อสูร ฯลฯ กับ Ayako Hata ที่เคยผ่านงานคีย์อนิเมเตอร์ของภาพยนตร์เรื่องที่ว่า จะมารับตำแหน่งเป็นผู้กำกับอนิเมชั่นคู่กันในเรื่อง Mirai No Mirao ส่วน Yohei Takamatsu กับ Takashi Omori ที่เคยทำงานมาแล้วใน The Boy and the Beast ศิษย์มหัศจรรย์กับอาจารย์พันธุ์อสูร ก็กลับมารับตำแหน่งผู้กำกับศิลป์ และโปรดิวเซอร์ Yuichiro Saito ก็ยังมารับตำแหน่งเดิมเหมือนที่ผ่านมา
Hosoda ได้กล่าวว่าภาพยนตร์เรื่องใหม่สร้างมาจากประสบการณ์ของเขาในฐานะพ่อ จะสังเกตได้ว่า “Mirai” (ซึ่งแปลว่า “อนาคต”) นั้นเป็นทั้งชื่อของตัวละครที่เป็นน้องสาว และชื่อภาพยนตร์ ซึ่งเป็นชื่อเดียวกันกับลูกสาวของเขาเอง เขายังกล่าวต่ออีกว่าความขัดแย้งในภาพยนตร์เรื่องนี้ได้สะท้อนประสบการณ์ชีวิตจริงของเขาในฐานะลูกชายคนโตที่รู้สึกกับพี่น้องคนใหม่ “แย่งพ่อแม่เธอมา ซึ่งทำให้เธออิจฉาเป็นอย่างมาก” เขายอมรับว่าภาพยนตร์เรื่องใหม่นี้ใกล้เคียงกับเรื่องราวชีวิตคนจากเรื่อง The Girl Who Leapt Through Time และ Wolf Children คู่จี๊ดชีวิตอัศจรรย์ แต่จะมีการดำเนินเรื่องราวเหมือนกับ Summer Wars และ The Boy and the Beast ศิษย์มหัศจรรย์กับอาจารย์พันธุ์อสูร
Source: Cinema Today (小松芙未)
