ฉลอง 45 ปี หน้ากากแก้ว ด้วยนาฬิกากุหลาบม่วงที่นำพาสู่โลกมายา

ปี 2021 ถือว่าเป็นช้่วงเวลาสำคัญอีกครั้งของมังงะ หน้ากากแก้ว ของอาจารย์ Miuchi Suzue เพราะนี่เป็นปีที่มังงะเรื่องดังกล่าวมีอายุครบรอบ 45 ปีแล้วนั่นเอง

เพื่อเป็นการฉลองห้วงเวลาอันสำคัญนี้ ทาง Premico ร้านค้าผู้ชำนาญการด้านการจัดทำของสะสมจากสื่อบันเทิงต่างๆ ได้ทำการเปิดตัว นาฬิกาข้อมือ ‘กุหลาบม่วง’ เพื่อเป็นการฉลองวัย 45 ปี ของผลงานเรื่องดัง

นาฬิกาข้อมือเรือนดังกล่าวมาพร้อมกับสายนาฬิกาโลหะสแตนเลสแบบไม่ฉูดฉาด เพื่อขับให้ตัวหน้าปัดที่มีการออกแบบมาในธีม ‘กุหลาบม่วง’ โดดเด่นมากขึ้น โดยตัวหน้าปัดจะมีพื้นสีม่วงที่แกะสลักลายเป็นช่อกุหลาบอยู่ตรงกลางเรือน ส่วนตัวเลขบนนาฬิกาจะเป็นเลขโรมันไล่จาก เลข 1 ไปถึง 6 ส่วนตัวเลข 7 ถึง 11 จะมีการปรับดีไซน์เป็นดอกกุหลาบตูมไปจนถึงช่วงดอกกุหลาบบาน สอดคล้องกับตัวตนของ คิตาจิมะ มายะ นางเอกของเรื่อง ที่ค่อยๆ เบ่งบานในฐานะนักแสดง

ที่ตำแหน่งตัวเลข 12 ซึ่งอยู่ด้านบนสุดของหน้าปัดนาฬิกา จะกลายถูกตกแต่งเป็นทรงเพชรที่ ที่เทียบเคียงได้เหมือนช่วงเวลาของ คิตาจิมะ มายะ ที่ยืนภายใต้สปอทไลท์ซึ่งส่องไปยังดอกไม้ และกลายเป็นดาราเจิดจรัสบนเวที ส่วนด้านหลังของเรือนนาฬิกาก็มีการสลักรูปของ คิตาจิมะ มายะ ถือหน้ากาก พร้อมมีเลขระบุว่านาฬิกาเรือนดังกล่าวเป็นเรือนที่เท่าใดในล็อตการผลิตแบบจำนวนจำกัด เพียง 4,500 เรือน (และเรือนหมายเลข 1 จะมอบให้อาจารย์ Miuchi Suzue)

ตัวนาฬิกาเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้า โดยมีขนาดให้เลือกสามขนาด ตัวไซส์ S มีเส้นรอบวงข้อมือ 14.3 ซม., ไซส์ M มีเส้นรอบวงข้อมือ 16.5 ซม. ฝ w และ ไซส์ L มีเส้นรอบวงข้อมือ 18 ซม. ตามลำดับ แต่ทุกขนาดวางจำหน่ายในราคา 32,780 เยน (รวมภาษีแล้ว) และตัวสินค้ามีกำหนดส่งในช่วงเดือนพฤศจิกายน

อาจารย์ Miuchi เขียนหน้ากากแก้วมาตั้งแต่ปี 1975 ในนิตยสาร Hana To Yume ก่อนจะย้ายมาตีพิมพ์ในนิตยสาร Bessatsu Hana to Yume ในปี 2008 และก่อนหน้านี้เมื่อปี 2014 อาจารย์ Miuchi เคยประกาศว่า มังงะเรื่องนี้กำลังใกล้เข้าฉากจบทุกที่แล้ว กระนั้นรวมเล่มล่าสุดที่ทาง Hakusensha ตีพิมพ์ออกมาก็คือฉบับที่ 49 เมื่อปี 2012 ส่วนฉบับที่ 50 ถูกเลื่อนจำหน่ายอย่างไม่มีกำหนดมาตั้งแต่ปี 2013 ถึงปัจจุบัน

หน้ากากแก้วในปี ได้ถูกสร้างเป็นอนิเมะครั้งแรกในปี 1984 ก่อนจะถูกรีเมคอีกครั้งในปี 2005-2006 และยังโดนสร้างเป็นซีรี่ส์คนแสดงถึงสองครั้ง รวมไปถึง OVA จำนวน 3 ตอนในช่วงปี 1998 เมื่อปี 2009 สตูดิโอที่ถนัดงานแนวแฟลชอนิเมชั่นอย่าง DLE ได้สร้างภาพยนตร์เรื่องแรกของเรื่อง หน้ากากแก้ว ที่ใช้ชื่อเรื่องว่า Glass no Kamen Desu ga the Movie Onna Spy no Koi! Murasaki no Bara wa Kiken na Kaori!? (หน้ากากแก้วก็จริงนะแต่… เดอะมูฟวี่ สายลับสาวแห่งรัก! กุหลาบม่วงผู้มีกลิ่นอันตราย!?) ซึ่งเป็นภาคหนังโรงของ ของการ์ตูนภาคแยกที่แซะ หน้ากากแก้ว ตัวต้นฉบับ Glass no Kamen Desu ga นอกจากเรื่องนี้แล้ว หน้ากากแก้ว ยังมีภาคแยกอีกภาคที่ชื่อว่า The Glass Mask Year 3 Class D (หน้ากากแก้ว ปี 3 ห้อง D) ที่เคยถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นออกฉายเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ปี 2016