ภาพยนตร์ Gundam SEED Freedom ทำรายได้ 1,065 ล้านเยน จากการฉาย 3 วัน

Share

Shochiku ได้ออกประกาศข่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ภาพยนตร์ Mobile Suit Gundam SEED Freedom ได้ทำยอดขายตั๋วกว่า 634,182 ใบ และกวาดรายได้ไปถึง 1,065,983,130 เยน จากการฉายสามวันแรก ทำให้ภาพยนตร์ภาคดังกล่าวเป็นภาพยนตร์จที่ทำรายได้ในการฉายเปิดตัวสามวันแรกสูงที่สุดของเฟรนไชส์กันดั้ม รวมถึงเป็นภาพยนตร์ที่เปิดตัวด้วยรายได้มากที่สุดของปี 2024 ณ เวลานี้ อีกด้วย

ซึ่งยอดขายดังกล่าวนี้ ถือว่าสูงกว่าภาพยนตร์ Mobile Suit Gundam: Hathaway ที่เป็นภาพยนตร์เรื่องก่อนหน้าของเฟรนไชส์กันดั้มที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ถึงสองเท่า เนื่องจากในช่วงการฉายสามวันแรกของภาคดังกล่าว ทำยอดขายตั๋วได้ 259,074 ใบ และทำรายได้ 523,943,800 เยน

ทางทีมงานของภาพยนตร์ Mobile Suit Gundam SEED Freedom ยังได้ประกาศเพิ่มเติมว่า ของแถมสำหรับการฉายภาพยนตร์ในสัปดาห์ที่ 2 (2 – 8 กุมภาพันธ์ ปี 2024) จะเป็นบุ๊คเล็ท รวมภาพออกแบบของตัวละครและเครื่องจักรที่ปรากฎภายในเรื่อง

ภาพยนตร์ภาคใหม่ ยังได้ คุณ Fukuda Mitsuo ผู้กำกับของกันดั้ม SEED สองภาคแรกมาทำหน้าที่ผู้กำกับอีกครั้ง และเขายังเป็นผู้เขียนบทร่วมกับ คุณ Morosawa Chiaki ภรรยาผู้ล่วงลับ และ คุณ Goto Liu กับ คุณ Hirai Hisashi ยังคงทำหน้าที่ออกแบบตัวละครเช่นเดิม

ภาพยนตร์ Mobile Suit Gundam SEED Freedom ยังได้ทำการเปิดตัวอย่างที่มีเพลงประกอบชื่อ Freedom ซึ่งจะได้ คุณ Nishikawa Takanori หรือ T.M.Revolution เป็นผู้ขับร้อง และ คุณ Komuro Tetsuya สมาชิกของวง TM Network เป็นผู้แต่งเพลงดังกล่าว

ทีมงานของภาพยนตร์อนิเมะ Mobile Suit Gundam SEED Freedom ยังระบุว่า ได้มีการเปลี่ยนนักพากย์ของ คาการิ ยูระ อัธฮา จากเดิมที่พากย์โดยคุณ Shindou Naomi ไปเป็น คุณ Mori Nanako แทน

และมีการเปิดเผยทีมนักพากย์ตัวละครใหม่ไว้ดังนี้

  • คุณ Kuwashima Houko รับบท Agnes Giebenrath
  • คุณ Sakura Ayane รับบท Toyah Mishima
  • คุณ Ohtsuka Houchu รับบท Alexei Konoe
  • คุณ Fukuyama Jun รับบท Albert Heinlein
  • คุณ Tone Kentarou รับบทโดย Liu Shenqiang
  • คุณ Matsuoka Yoshitsugu รับบท Daniel Harper
  • คุณ Shimono Hiro รับบท Orphee Lam Tao
  • คุณ Tamura Yukari รับบท Aura Maka Khyber
  • คุณ Uesaka Sumire รับบท Ingrid Tradoll
  • คุณ Fukuen Misato รับบท Redelard Tradoll
  • คุณ Nakamura Yuukichi รับบท Shura Serpentine
  • คุณ Morisaki Win รับบท Griffin Arbalest

ทีมงานท่านอื่นได้แก่:

  • ผู้ออกแบบเครื่องจักร: คุณ Okawara Kunio, คุณ Yamane Kimitoshi, คุณ Miyatake Kazutaka, คุณ Akutsu Junichi, คุณ Shintani Manabu, คุณ Zen Shiba, คุณ Io Takuya, คุณ Taiga Hiroyuki
  • ผู้กำกับอนิเมชั่นเครื่องจักร: คุณ Shigeta Satoshi
  • ศิลปินคัลเลอร์คตีย์: คุณ Nagao Akemi
  • ผู้กำกับศิลป์: คุณ Ikeda Shigemi, คุณ Maruyama Yukiko
  • มอนิเตอร์เวิร์ค: คุณ Tamura Azusa, คุณ Kageyama Jirou
  • ผู้กำกับการผสมภาพ: คุณ Katsurayama Takeshi, คุณ Toyooka Shigenori
  • ตัดต่อ: คุณ Nojiri Yukiko
  • ผู้กำกับเสียง: คุณ Fujino Sadayoshi
  • ดนตรีประกอบ: คุณ Sahashi Toshihiko

ภาพยนตร์ข้างต้นถือว่าเป็นหนึ่งในโปรเจคท์ Mobile Suit Gundam Seed Project ignited ที่เคยมีการระบุในช่วงเดือนพฤษภาคม ปี 2021 ว่าจะเป็น เป็นภาพยนตร์หลายภาค โดยจะเริ่มฉายจากตัวภาพยนตร์ที่เคยมีข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ตั้งแต่ปี 2006 เรื่องราวในภาพยนตร์จะเนื้อหาต่อจากภาคซีรีส์โทรทัศน์ และยังได้ คุณ Fukuda Mitsuo ผู้กำกับขอบ Gundam SEED ชุดเดิมกลับมานำทีมสร้างอีกครั้ง

Mobile Suit Gundam SEED ออกฉายครั้งแรกในปี 2002 ถึง 2003 ก่อนจะมีภาคต่อออกฉายในช่วงปี 2004 ถึง 2005 และมี OVA Mobile Suit Gundam Seed C.E.73: Stargazer จำนวนสามตอนออกฉายในช่วงปี 2006 ในงาน Sony Music Anime Festival ’06 ได้มีการประกาศเปิดตัว Gundam SEED ฉบับภาพยนตร์ในช่วงปี 2006

คุณ Morosawa Chiaki หัวหน้าทีมเขียนบทของ Gundam SEED ทั้งสองภาคเสียชีวิตด้วยวัย 56 ปี เมื่อปี 2016 เธอร่วมกับสามี คุณ Fukuda Mitsuo ในการกำกับ Gundam SEED ทั้งสองภาค และร่วมวางแผนสร้างฉบับภาพยนตร์ คุณ Morosawa ระบุ

Source: Press release