แอดมิน 3 คน ของเว็บไซต์ที่ลงลิงค์ไปยังเว็บไซต์อ่านการ์ตูน ถูกตัดสินว่ามีความผิด

ผู้กระทำผิดทั้ง 3 คน ถูกตัดสินให้รับโทษจำคุก 2 ปี 4 เดือน - 3 ปี 6 เดือน

Share

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ศาลจังหวัดโอซาก้าได้ทำการพิพากษาตัดสินคดี แอดมิน 3 คน ของเว็บไซต์ “Haruka Yume No Ato” “เว็บปลิง” ที่ลงลิงค์ไปยังเว็บไซต์อ่านการ์ตูนผิดลิขสิทธิ์เว็บอื่นๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้กระทำผิดทั้งสามคนได้รับโทษแตกต่างกันดังนี้: โทษจำคุกสามปี กับ หกเดือน, โทษจำคุกสามปี และ โทษจำคุกสองปี กับ สี่เดือน โดยไม่มีคนใดได้รับการรอลงอาญา

เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2017 ตำรวจในพื้นที่เก้าจังหวัดได้ทำการจับกุมผู้ต้องสงสัยเก้าคนในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดลิขสิทธิ์ที่เกี่ยวพันกับเว็บไซต์ ‘Haruka Yume no Ato’ เว็บซึ่งหนึ่งในเป็น “เว็บปลิง” ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น (ภาพด้านบน) แม้ว่าตามตัวบทกฎหมายปัจจุบัน แต่ผู้ให้บริการเว็บดังกล่าวได้ถูกจับในข้อหาปล่อยสื่อละเมิดลิขสิทธิ์ที่ทางเว็บได้แจกลิงค์สำหรับโหลดไว้ให้ บริษัทที่ได้รับความเสียหายจากเว็บดังกล่าวมีทั้ง Kadokawa, Kodansha, Shueisha, Shogakukan, Square Enix และ Hakusensha ต่างร่วมมือกันทำงานในคดีนี้

ทาง Association of Copyright for Computer Software (ACCS) หน่วยงานที่ดูแลด้านลิขสิทธิ์ซอฟท์แวร์ในประเทศญี่ปุ่นได้ประเมินความเสียหายจากเนื้อหาที่ถูกลงลิงค์ไว้ในเว็บดังกล่าวเฉพาะในช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2016 ถึงเดือนมิถุนายนปี 2017 กินมูลค่าสูงถึง 73,100 ล้านเยน การ์ตูนดังๆ ที่ถูกลิงค์ไปให้อ่านก็มีตัวอย่างเช่น นารูโตะ นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ

ทาง Mainichi Shimbun ออกรายงานข่าวเมื่อเดือนเมษายน ปี 2018 ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นวางแผนที่จะออกกฎหมายเพื่อควบคุมเว็บไซต์เหล่านี้ และในเดือนเดียวกันนั้นเองทางรัฐบาลได้ขอความร่วมมือให้ผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตทำการแบนเว็บไซต์ที่เป็นโฮสท์ไฟล์ละเมิดลิขสิทธิ์โดยสมัครใจ และทางรัฐบาลได้วางแผนที่จะออกกฎหมายใหม่ในปี 2019 เพื่อเป็นการขยายขอบเขตในการบล็อกเว็บไซต์ด้วยอำนาจทางกฎหมาย เนื่องจากในตอนนี้ทางประเทศญี่ปุ่นมีกฎหมายที่อำนาจครอบคลุมแค่การบล็อกเว็บไซต์ที่มีสื่อลามกอนาจารเด็กเท่านั้น

Nippon Telegraph and Telephone Corporation หรือ NTT ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตในประเทศญี่ปุ่นได้ทำการบล็อกเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์ 3 แห่ง ตามคำร้องขอ ก่อนที่จะมีทนายจากจังหวัดไซตามะทำการยื่นฟ้องบริษัทดังกล่าวเนื่องจากการกระทำดังกล่าวของ NTT บ่งบอกว่าทางผู้ให้บริการล่วงรู้เนื้อหาที่ผู้ใช้งานเข้าใช้ ตามมาตราที่ 3 วรรคที่ 1 ของพระราชบัญญัติธุรกิจโทรคมนาคม ระบุเอาไว้ว่า “ไม่มีการสื่อสารใดๆ ที่จัดการโดยผู้ให้บริการระบบโทรคมนาคมที่ต้องโดนเซ็นเซอร์” ขณะที่ มาตราที่ 4 ระบุว่า “ห้ามให้มีการละเมิด ความลับผ่านการสื่อสารใดๆ ที่จัดการโดยผู้ให้บริการระบบโทรคมนาคม”

อย่างไรก็ตามทางรัฐบาลหมายที่จะใช้ข้อถกเถียงว่า การละเมิดลิขสิทธินั้นเป็นการทำร้ายผู้จัดจำหน่ายและผู้ผลิตเนื้อหาต่างๆ ทำให้สามารถบล็อกเว็บไซต์เหล่านั้นได้เพื่อ “หลีกเลี่ยงภายคุกคามในปัจจุบัน” ตามประมวลกฎหมายอาญาของประเทศญี่ปุ่น

สมาคมจำหน่ายเนื้อหาออกต่างประเทศ (Content Overseas Distribution Association หรือ CODA) ได้รายงานกับทางรัฐบาลว่า ในช่วงเดือนกันยายนปี 2017 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ประเทศญี่ปุ่นเสียหายจากการละเมิดลิขสิทธิ์เป็นมูลค่ากว่า 400 ล้านเยน

Sources: Animation Business Journal (Tadashi Sudo), Kodansha

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*