[Review] ก็อดซิลล่า ฉบับปี 2016 : คืนสู่ถิ่นกำเนิด กับการอาละวาดสมศักดิ์ศรีราชาสัตว์ประหลาด

Share

Godzilla+major-01_resize

ก็อดซิลล่า ภาพยนตร์สัตว์ประหลาดที่วางรากฐานของภาพยนตร์และซีรีส์จำพวก Tokusatsu อายุอานามยาวกว่า 62 ปี จนทำให้ใครหลายคนเชื่อมั่นไปแล้วว่า หนังชุด ก็อดซิลล่า นี้ คงถึงจุดจบ โดยเฉพาะหลังจากที่ฉบับฮอลลีวูดเพิ่งกลับมาฉายใหม่ไปเมื่อปี 2014 ที่ผ่านมาก็ตีความให้ใกล้เคียงตัวต้นฉบับ จนหลายคนแทบไม่เหลือความเชื่อว่าภาพยนตร์ ก็อดซิลล่า ภาคใหม่ Shin Godzilla (หรือ Godzilla Resurgence) จะสามารถนำเสน่ห์ของสัตว์ประหลาดยักษ์อันแสนอลังการให้กลับมาได้อีกครั้ง

anno

อันโนะ ฮิเดอากิ ผู้กำกับจากฟากฝั่งโลกอนิเมชั่น ผู้มีความคลั่งไคล้ในภาพยนตร์ Tokusatsu มาตั้งแต่ยังเด็ก ผลพวงเหล่านั้นทำให้งานที่่เขาเข้าไปเกี่ยวข้องจะแซมไปด้วยกลิ่นของภาพยนตร์แนวดังกล่าวอยู่บ่อยครั้ง อย่างในผลงานที่ผู้คนจดจำได้มากที่สุดอย่าง Neon Genesis Evangelion ก็แอบใส่กิมมิคของ พี่น้องอุลตร้า เข้าไปอย่างแนบเนียน

Shin Godzilla 01

เส้นทางของ ก็อดซิลล่า กับ อันโนะ ฮิเดอากิ ไม่น่ามาบรรจบรวมกันได้เลย หากไม่เป็นเพราะ ในช่วงที่อันโนะ เกิดอาการ Art Block หลังจากส่งภาพยนตร์ Rebuild Of Evangelion 3.0 ไป เขาก็อยากหาทางออกสำหรับการสร้างสรรค์งานใหม่ ซึ่งทางออกของอันโนะในตอนนั้นก็คือการรับข้อเสนอให้มากำกับ ภาพยนตร์ Shin Godzilla

แม้ว่า อันโนะ ฮิเดอากิ จะพอมีประสบการณ์เขาเคยกำกับภาพยนตร์คนแสดงมาบ้าง แต่ในสเกลภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ อันโนะไม่ได้มาทำหน้าที่กำกับเพียงคนเดียว เขาจับคู่กับ ฮิงูจิ ชินจิ ที่เพิ่งมีผลงานล่าสุดอย่าง ภาพยนตร์ ผ่าพิภพไททัน ฉบับคนแสดงมาหมาดๆ ทั้งนี้เพราะฮิงูจิ เคยเป็นผู้ช่วยผู้กำกับใน Evangelion ฉบับทีวีซีรีส์มาก่อน แถมยังมีความชำนาญในการจัดทำหนังแนวระเบิดตึกถล่มเกาะญี่ปุ่นมาแล้วหลายเรื่อง

 

ถ้าเช่นนั้นจะแปลว่า ก็อดซิลล่า ภาคล่าสุดจากประเทศญี่ปุ่นนี้จะตีความผิดแผกจนแหกกรอบของก็อดซิลล่าไปสู่มิติใหม่เลยหรือไม่ ? คำตอบที่เราได้รับทราบหลังจากที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วคือ … ไม่เลย

 

ก็อดซิลล่า ฉบับปี 2016 เดินเรื่องกลับสู่แก่นแท้ของตัวภาพยนตร์ฉบับดั้งเดิมอย่างแท้จริง คนดูที่ไม่เคยดูภาคอื่นก็สามารถเข้าจเนื้อหาของเรื่องได้ทันที ด้วยประเด็นหลักๆ ที่ว่า ‘การบุกรุกของก็อดซิลล่าสิ่งมีชีวิตลึกลับที่สามารถกวาดล้างเผ่าพันธุ์มนุษยชาติได้’ เพียงแค่ในเรื่องนี้เปลี่ยนแปลงเรื่องราวให้เข้ายุคเข้าเข้าสมัยกับปี 2016 มากขึ้น พร้อมกับการเพิ่มเติมคำถามใหม่ลงไปเพิ่มเติมจากฉบับดั้งเดิมว่า หากมนุษย์ถูกเอาคืนจากธรรมชาติแล้วล่ะก็ ‘ระบบของมนุษย์’ พร้อมจะรับมือการเอาคืนอย่างก็อดซิลล่าได้ดีแค่ไหน  ในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นว่าในยุค Social Network ครองโลกแบบนี้ การแก้ปัญหาบางอย่างที่เคยทำได้ในหนังภาคก่อนๆ ก็ไม่อาจจะทำได้ในภาคนี้

Shin Godzilla 04
ฉากต่อสู้ของหน่วย JSDF ที่เหมือนกับยกเอาฉากของ Evangelion โดยเปลี่ยนศัตรูเป็น ก็อดซิลล่า แทน

ถึงพลอทจะกลับสู่แก่นแท้แต่เนื้อหาของเรื่องกลับไม่น่าเบื่อ ด้วยสไตล์การกำกับของ อันโนะ ทั้งในส่วนการเดินเรื่อง ที่มีการทิ้งปริศนาไว้ตั้งแต่ต้นเรื่อง มุกตลกที่ตั้งใจปล่อยให้ผ่อนคลาย หรือแม้แต่มุกตลกแดกดันการเมืองของประเทศญี่ปุ่น และนานาชาติ ถือว่าออกมาได้รสชาติ และยิงอย่างถูกที่ถูกเวลา ทำให้สถานการณ์ของเรื่องดูทั้งตึงเครียดและทั้งน่าแค่นหัวเราะไปพร้อมๆ กัน และส่วนสำคัญที่อันโนะ จัดหนักจัดเต็มให้คนดู ก็คือฉากอาละวาดของก็อดซิลล่าที่บุกเข้ามาถล่มในญี่ปุ่นแบบไม่มีกั๊กเหมือนเวอร์ชั่นฮอลลีวูด อย่างฉากปล่อย ‘ลมหายใจปรมาณู (Atomic Breath)’  ของก็อดซิลล่าที่ทำออกมาสมใจที่คนดูที่รอชมว่าจะออกมาอลังการแค่ไหน

Shin Godzilla 02
ไม่ได้ดีไซน์ใหม่แบบไร้แก่นสาร เหตุผลที่ร่างของก็อดซิลล่าภาคนี้เปลี่ยนไปมีคำอธิบายในภาพยนตร์

พูดถึงฉากปล่อยลำแสงแล้ว อีกอย่างที่กลายเป็นข้อดีมากๆ ของภาคนี้คือ การที่ร่างกายของก็อดซิลล่าในภาคนี้ดูน่าเกลีดน่ากลัวเหมือนร่างกายพร้อมจะพุพังตลอดเวลา หน้าตาที่ดูแปลกทิศไป ฟันฟางที่ดูไม่สง่าเหมือนหลายเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ จุดเหล่านี้ในภาพยนตร์มีเฉลยไว้อย่างครบถ้วน ว่าทำไมก็อดซิลล่าถึงต้องออกมาในรูปลักษณ์นี้

Shin Godzilla 03
ตัวละครจำนวนมากและการออกมาพูดบทของตัวเอง ถึงจะมีผลต่อเนื้อเรื่อง แต่ก็ชวนให้คนดูสับสนอยู่บ้าง

 

แต่ก็ใช่ว่าสไตล์การกำกับแบบอันโนะจะไม่มีข้อเสียเอาซะเลย เพราะใน ก็อดซิลล่าภาคนี้ผู้กำกับยกเอาสไตล์ที่เคยใช้ใน Evangelion จนสร้างความมึนให้คนดู มาใส่ตั้งแต่ช่วงต้นของภาพยนตร์ทำให้บรรยากาศราว 15 นาทีแรกของเรื่องอาจจะทำให้หลายคนที่ไม่เคยดู อนิเมชั่นของทาง Gainax หรือ Khara มาก่อนอาจจะหาวหวอดด้วยความยาวของบทสนทนาอันยาวยืดได้ง่ายๆ   รวมถึงการที่มีตัวละครในเรื่องมากมาย อาจจะทำให้เกิดอาการหลงๆ ลืมๆ ไปได้ว่าแต่ละครออกมาทำอะไรกันบ้าง

ส่วนคนที่เป็นแฟนของผู้กำกับท่านนี้ จะได้สนุกกับการเห็นสไตล์การกำกับที่เคยอยู่ในอนิเมชั่นกลายมาเป็นภาพยนตร์คนแสดง ทั้งยังสนุกกับการจับผิดเพลงประกอบที่แทบจะยกมาจาก Evangelion 3 ภาคล่าสุด รวมถึงความยึดติดของอันโนะในการพยายามทำลาย Tokyo Bay Aqua-Line (ฮา)  และสุดท้ายคือความโชคดีที่ตัวอันโนะเองบอกว่าพร้อมจะกลับไปทำ Rebuild Of Evangelion 4.0 แล้ว

ส่วนแฟนก็อดซิลล่าภาคเก่า อาจจะมีบางท่านที่เสียดายกับการกลับไปร้ายเต็มตัวอีกครั้งในภาคใหม่นี้ หลังจากเป็นมิตรสหายกับมนุษย์กับหลายภาค ผู้เขียนเชื่อว่าการได้ออกมาอาละวาดอย่างทรงภาคภูมิจะทดแทนความเสียดายนั้นได้ไม่มากก็น้อย

Shin Godzilla 01

ภาพยนตร์ ก็อดซิลล่า เปิดฉายรอบพิเศษและรอบสื่อเฉพาะกิจไปแล้ว  และพร้อมให้ทุกท่านพิสูจน์ว่าครั้งนี้ ก็อดซิลล่า ไม่ได้มีดีแค่ขนาดที่ใหญ่กว่าเดิม  ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน ที่จะถึงนี้ ตามโรงภาพยนตร์ชั้นนำ