Nippon Telegraph and Telephone Corporation หรือ NTT ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตในประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า พวกเขาจะทำการบล็อกเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์ 3 แห่ง ตามเงื่อนไข “นโยบายฉุกเฉินระยะสั้น” หลังจากการเตรียมการเสร็จสิ้นแล้ว บริษัทลูกในเครืออย่าง NTT Communications, NTT Docomo และ NTT Plala ก็จะดำเนินการตามมาตรการขั้นต้นนี้จนกว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะสามารถออกกฎหมายตัวใหม่ในการบล็อกเว็บไซต์เหล่านี้
นับตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน เวลาบ่ายสามโมงสามสิบสองนาทีตามเวลามาตรฐานประเทศญี่ปุ่น เว็บไซต์อ่านมังงะผิดกฎหมาย Mangamura ไม่สามารถเข้าไปใช้งานได้หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้ระบุเว็บนี้เป็นหนึ่งในสามเว็บไซต์ที่ทางรัฐพยายามร้องขอให้ทางผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตในประเทศทำการบล็อกเว็บดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ทางหนังสือพิมพ์ Asahi Shimbun ได้รายงานในวันเดียวกันว่าทางเว็บไม่ได้ปิดตัวเนื่องจากการร้องขอให้บล็อกเว็บนี้ แหล่งข่าวของทางหนังสือพิมพ์ระบุว่าทางเว็บทำการปิดตัวลงไปเองตามความสมัครใจของผู้ดูแลเว็บไซต์
Asahi Shimbun ยังเสริมว่าเซิร์ฟเวอร์ที่เก็บรูปของเว็บดังกล่าวก็ไม่สามารถเข้าไปดูแล้วเช่นกัน ตามแหล่งข่าวหนังสือพิมพ์ก็ได้ระบุว่าการกระทำนี้ไม่มีใครจัดทำได้นอกจากทางตัวผู้ดูแลของทางเว็บนี้เอง
NTT ระบุว่า การประกาศในวันจันทร์เพื่อบล็อกเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์เป็นผลจากการประชุมเมื่อวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา ระหว่างผู้เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมผลิตเนื้อหาต่างๆ กับทางตัวแทนคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นที่ดูแลด้านทรัพย์สินทางปัญญากับผู้ดูแลด้านต่อต้านอาชญากรรม รัฐบาลของประเทศญี่ปุ่นได้ทำการร้องขอผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตอย่างเป็นทางการเพื่อทำการบล็อกเว็บไซต์ที่เปิดให้อ่าน มังงะเถื่อน, นิตยสารดิจิตอล และเนื้อหาผิดกฎหมายประเภทอื่นๆ เมื่อวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา การร้องขอนี้เป็นการขอความร่วมมือ แต่ทางรัฐบาลได้วางแผนที่จะออกกฎหมายใหม่ในปี 2019 เพื่อเป็นการขยายขอบเขตในการบล็อกเว็บไซต์ด้วยอำนาจทางกฎหมาย เนื่องจากในตอนนี้ทางประเทศญี่ปุ่นมีกฎหมายที่อำนาจครอบคลุมแค่การบล็อกเว็บไซต์ที่มีสื่อลามกอนาจารเด็กเท่านั้น
ทางรัฐบาลระบุว่าตอนนี้ทางรัฐวางเป้าหมายบล็อกเว็บไซต์สามแห่ง (Mangamura, AniTube! และ MioMio) ก่อนจะเสริมว่า ถ้าพวกเขาพบเว็บไซต์แห่งใหม่ ทางรัฐบาลจะจัดตั้งคณะกรรมการร่วมปรึกษาหารือที่มีผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้คำแนะนำว่าจะจัดทำอย่างไรต่อไป ทางรัฐบาลกำลังพิจารณากฎหมายเข้าดำเนินการกับกลุ่ม “เว็บไซต์ปลิง” ที่ทำการลงลิงค์เพื่อให้เข้าต่อไปยังเว็บไซต์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์อีกด้วย
ทางรัฐบาลได้ออกแถลงการณ์เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่าพวกเขาวางแผนจะร้องขอให้ผู้บริการอินเตอร์เน็ตทำการบล็อกเว็บไซต์อ่านมังงะเถื่อนเหล่านี้ ทางหนังสือพิมพ์ Mainichi Shumbun เคยระบุว่าจำนวนผู้เข้าชมของเว็บไซต์ทั้งสามแห่งเพิ่มขึ้นมากตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีก่อน จนทำให้เว็บเป็นที่รู้จักกันทั่วไป และทำให้ยอดขายมังงะแบบดิจิตอลในเดือนดังกล่าวมียอดลดลง หลงจากที่ยอดดังกล่าวพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องมานับตั้งแต่ปี 2012
และทาง Mainichi Shimbun ยังเคยรายงานว่ายังไม่มีช่องทางทางกฎหมายใดๆ สามารถทำการบล็อกเว็บไซต์เหล่านี้ได้ และการกระทำดังกล่าวอาจจะเป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นหรือการเซ็นเซอร์ได้ ตามที่มาตราข้อที่ 21 ของรัฐธรรมนูญประเทศญี่ปุ่น ได้ระบุเอาไว้ว่า “เสรีภาพในการชุมนุมและการรวมกลุ่ม ตลอดจนการพูดจาปราศัย, การแสดงผ่านสื่อต่างๆ จะได้รับอนุญาต จะไม่มีการเซ็นเซอร์ใดๆ หรือมีการปิดบังด้วยการขัดขวางการสื่อสาร”
อย่างไรก็ตามทางรัฐบาลหมายที่จะใช้ข้อถกเถียงว่า การละเมิดลิขสิทธินั้นเป็นการทำร้ายผู้จัดจำหน่ายและผู้ผลิตเนื้อหาต่างๆ ทำให้สามารถบล็อกเว็บไซต์เหล่านั้นได้เพื่อ “หลีกเลี่ยงภายคุกคามในปัจจุบัน” ตามประมวลกฎหมายอาญาของประเทศญี่ปุ่น
สมาคมจำหน่ายเนื้อหาออกต่างประเทศ (Content Overseas Distribution Association หรือ CODA) ได้รายงานกับทางรัฐบาลว่า ในช่วงเดือนกันยายนปี 2017 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ประเทศญี่ปุ่นเสียหายจากการละเมิดลิขสิทธิ์เป็นมูลค่ากว่า 400 ล้านเยน
[Via Hachima Kikō]