Suzuki Toshio พูดถึงแผนการโปรโมทภาพยนตร์ Kimi-tachi Wa Do Ikiru Ka แบบไม่โปรโมท ?

Share

หลายท่านที่ติตดามผลงานของ คุณ Miyazaki Hayao อาจจะพอทราบแล้วว่า หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Studio Ghibli ทำการสร้างภาพยนตร์อนิเมะ Kimi-tachi Wa Do Ikiru Ka ? ที่เป็นการดัดแปลงเนื้อหาจากนิยายมาสเตอร์พีซของนักเขียนชื่อดังในญี่ปุ่น Yoshino Genzaburo มาตั้งแต่ข่วงปี 2016 และมีการเปิดเผยข้อมูลว่าภาพยนตร์ดังกล่าวจะเข้าฉายที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงวันที่ 14 กรกฎาคม ปี 2023

แม้ว่าจะมีเวลาอีกราวหนึ่งเดือนที่ภาพยนตร์จะเข้าฉาย ก็ยังไม่มีใครเห็นเลยว่าภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว จะมีใครเป็นนักพากย์ หรือ ไม่มีแม้แต่ตัวอย่างภาพยนตร์แต่อย่างใด

ประเด็นนี้ นิตยสารรายเดือน Bungeishunjuu เองก็มีความสงสัยอยู่เช่นกัน ทางนิตยสารจึงได้เชิญ คุณ Toshio Suzuki โปรดิวเซอร์ของทาง Studio Ghibli มาพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และทาง คุณ Suzuki ได้ระบุว่าตัวของเขา ‘อิ่มตัว’ กับการทำตลาดแบบเต็มรูปแบบ ก่อนจะกล่าวว่า ทั้งตัว คุณ Shizuki กับ คุณ Miyazaki Hayao ไม่มีกำลังมากพอจะทำสิ่งนั้นแล้ว

‘คุณจะเบื่อกับการทำเรื่องเดิมซ้ำ ๆ ใช่ไหมล่ะ พวกเราเลยอยากจะลองอะไรใหม่ ๆ สำหรับครั้งนี้’

คุณ Suzuki ยังระบุเหตุผลอื่น ๆ เกี่ยวกับการไม่ทุ่มงานการตลาด โดยระบุว่ถาาคนดูสนใจที่จะรับชมอะไรบางอย่างจริง ๆ พวกเขาไม่จำเป็นต้องชมตัวอย่างภาพยนตร์เพื่อทำให้สนใจจะมาดูภาพยนตร์ ก่อนที่คุณ Suzuki จะระบุว่ามีภาพยนตร์บางเรื่องที่สปอยล์เนื้อหาเรื่องไว้ในตัวอย่างภาพยนตร์ โดยระบุไปถึงภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่องหนึ่งที่จะเข้าฉายที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงเดียวกับ Kimi-tachi Wa Do Ikiru Ka ?

หากย้อนไปในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ ทาง Studio Ghibli เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนตร์อนิเมะ Kimi-tachi Wa Do Ikiru Ka ? ด้วยภาพโปสเตอรื์เพียงใบเดียวเท่านั้น และคุณ Suzuki ก็ได้กล่าวในการสัมภาษณ์ว่า ตลอดอายุการทำงานที่ผ่านมา เขาเกี่ยวพันกับการตลาดและโปสเตอร์ของทาง Studio Ghibli มาโดยตลอด นี่เป็นโปสเตอร์ใบแรกของเขา ที่ คุณ Miyazaki ออกแบบชื่นชม และโปสเตอร์ใบดังกล่าวนั่นเอง ที่ทำให้เขาตัดสินใจทำการตลาดแบบมินิมัล: ไม่มีการโฆษณาทางโทรทัศน์, ไม่มีโฆษณาบนหนังสือพิมพ์, ไม่มีอะไรอื่น เพียงแค่ภาพโปสเตอร์นี้ก็เพียงพอแล้ว

live-visual
© 2005-2023 STUDIO GHIBLI Inc.

คุณ Suzuki ยังเน้นย้ำตลอดการสัมภาษณ์ว่า ทั้งหมดเป็นความรู้สึกจากใจจริงของเขา และเขาคำนึงถึงความสนใจของผู้ชมเป็นหลัก แม้ว่าเขาจะยอมรับแบบหน้าชื่นตาบานว่า แรงจูงใจหลายอย่างก็เพื่อสนองความต้องการของตัวเขาเอง

และภายในการสัมภาษณ์เดียวกันนั้น คุณ Suzuki ก็ได้เปิดเผยรายละเอียดบางส่วนว่าภาพยนตร์ Kimi-tachi Wa Do Ikiru Ka ? จะเป็นอย่างไร ตัวของเขาคิดว่าภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวเป็นงานที่ยอดเยี่ยม แม้ว่าจะมีส่วนเกี่ยวพันกับนิยายต้นฉบับของ Yoshino Genzaburo ที่ คุณ Miyazaki Hayao ได้รับแรงบันดาลใจมา นับตั้งแต่ที่ผู้กำกับชื่อดังได้อ่านเรื่องนี้มาตั้งแต่สมัยมัธยมศึกษาตอนต้น และมีไอเดียติดค้างเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยประเด็นหลักจะเกี่ยวพันกับชื่อเรื่องที่มีความลึกซึ้ง

ปรัชญาด้านการตลาดของ คุณ Toshio Suzuki มักจะมีความแตกต่างและซับซ้อนอยู่เสมอ อย่างที่ คุณ Nakajima Kiyofumi อดีตประธานของทาง Studio Ghibli ได้ระลึกถึงเมื่อครั้งที่ภายพนตร์อนิเมะเรื่อง Spirited Away มิติวิญญาณมหัศจรรย์ กลายเป็นผลงานฮิตทั่วโลก ตอนนั้นคุณ Suzuki ได้กล่าวว่า ‘ผู้กำกับภาพยนตร์ทุกคนระลึกอยู่เสมอในการสร้างผอะไรสักอย่างที่ดี ไม่มีผู้กำกับคนไหนที่ไม่คิดเช่นนี้ อย่างไรก็ตามการรักษาสมดุลระหว่างความต้องการของตลาดทำให้มันทำงานได้ยาก พวกเราที่จิบลิ จึงโฟกัสกับการทำอะไรบางอย่างให้ดี จากนั้นจึงทำให้ผู้คนเข้าใจเนื้อหาของผลงานมากที่สุด ทำการดูแลงานด้านการตลาด’

อย่างไรก็ตาม คุณ Nakajima ได้เขียนถึงเหตุการณ์ในภายหลังว่า ตัวของเขาได้พบกับความจริงที่ คุณ Suzuki เป็นคนทำงานที่อยู่บนพื้นฐานความจริง ที่เกาะติดเทรนดฺ์อย่างระมัดระวัง และทุ่มเงินราว 10,000 ล้านเยน ในการโปรโมทให้ภาพยนตร์ Spirited Away มิติวิญญาณมหัศจรรย์ ก่อนที่คุณ Nakajima จะระลึกถึงเรื่องนี้แบบติดตลกว่า ‘ไอ้ที่เขาบอกผมว่า ไม่มีทางคาดการณ์อนาคตได้ และ คุณไม่รู้ว่ามันจะเป็นอย่างไรจนกว่าจะลองทำ นั่นน่ะเป็นเรื่องโกหกหน้าตายเลย’ อย่างไรก็ตาม คุณ Nakajima ก็ยังกล่าวชื่นชมว่า คุณ Suzuki เป็นคนใจดีที่ทำทำงานที่อยู่บนพื้นฐานความจริง เพื่อที่จะสำรองเงินทุนให้กับเหล่าผู้สร้างสรรค์ผลงานที่ Studio Ghibli สามารถมีอิสระในการสร้างผลงานได้อย่างเต็มที่

ซึ่งคำพูดของ คุณ Nakajima Kiyofumi จะสอดคล้องกับแนวคิดที่ คุณ Suzuki Toshio เคยกล่าวไว้ในปี 2020 ที่ยอมขายสิทธิ์การฉายอนิเมะให้บริการสตรีมมิ่งหลายแห่ง เพราะรู้ว่า คุณ Hayao Miyazaki จะต้องทำงานเป็นเวลาหลายปี และต้องใช้เงินจำนวนมาก เลยตัดสินใจขายสิทธิ์การฉายออนไลน์ เพื่อหาเงินทุนเข้าทางบริษัทนั่นเอง

Source: Bungeishunjū digital edition’s YouTube channel via Hollywood Reporter

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*