ศาลของรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศอเมริกา ทำการพิพากษายืนในข้อตกลงด้านลิขสิทธิ์ระหว่างบริาท Harmony Gold USA กับทาง Tatsunoko Production ว่าทางลิขสิทธิ์ของเรื่อง The Super Dimension Fortress Macross, The Super Dimension Cavalry Southern Cross, และ Genesis Climber Mospeada จะสิ้นสุดลงในวันที่ 14 มีนาคม 2021
ทาง Harmony Gold ยังสามารถสร้างผลงานสืบเนื่องในรูปแบบใด รวมไปถึงภาพยนตร์คนแสดงที่เกี่ยวข้องกับอนิเมะทั้งสามเรื่องนี้ได้จนกว่าลิขสิทธิ์จะหมดอายุ ก่อนที่ลิขสิทธิ์และสิทธิ์ย่อยทั้งหมดจะกลับไปสู่ฝั่ง Tatsunoko จนกว่าทั้งสองบริษัทจะทำการตกลงกันใหม่ Harmony Gold เป็นผู้ถือสิทธิ์ของ ‘Robotech’ อย่างถาวร ทว่าเมื่อลิขสิทธิ์ตามที่กล่าวถึงในข้างต้นสิ้นสุดลง ทางบริษัทก็จะไม่สามารถใช้หรือหาผลประโยชน์จากผลงานที่เกี่ยวข้องกับอนิเมะทั้งสามเรื่องได้
คดีอนุญาโตตุลาการ
Harmony Gold ยื่นข้อพิพาทต่อทาง Tatsunoko Production กับทางศาลตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2016 ซึ่งทาง Tatsunoko ยื่นฟ้องกลับพร้อมเรียกร้องค่าเสียหายมูลค่า 15 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ด้วยการกล่าวอ้างว่าทาง Harmony Gold กระทำการละเมิดสัญญาหลายประการ รวมไปถึงการปล่อยสิทธิ์ให้บุคคลที่สาม และการไม่จ่ายค่าสิทธิ์ของการขายแผ่น ซึ่งทางศาสตัดสินให้ทาง Harmony Gold ชนะในกรณีนี้โดยสรุปว่าไม่ได้เป็นการละเมิดข้อตกลงแต่อย่างใด
Harmony Gold ได้อ้างว่า ในบทบัญญัติที่เกิดขึ้นในข้อตกลงกับทาง Tatsunoko เมื่อปี 1998 สามารทำให้ทาง Harmony Gold สามารถหาผลประโยชน์จากอนิเมะสามเรื่องได้อย่างถาวร แต่ในกรณีนี้ทางศาลได้ตัดสินให้ประโยชน์กับทาง Tatsunoko โดยให้ลิขสิทธิ์ของอนิเมะทั้งสามเรื่องที่กล่าวไปในช่วงต้นของข่าวมีกำหนดหมดอายุภายในปี 2021
และเนื่องจากทาง Harmony Gold ไม่ได้ทำการละเมิดสัญญาใดๆ ทางศาลจึงสั่งการให้ทาง Tatsunoko เป็นผู้จ่ายค่าใช้จ่ายด้านดำเนินการทางกฏหมายและค่าอื่นๆ สำหรับคดีนี้
เบื้องหลัง
เดิมทีทาง Tatsunoko ได้มอบสิทธิ์หลายประการของอนิเมะ มาครอส, มอสปีด้า และ เซาท์เทิร์นครอส ให้กับทาง Harmony Gold เมื่อปี 1984 ซึ่งทาง Harmony Gold ได้นำเอาอนิเมะทั้งสามเรื่องมาเขียนบทและตัดต่อใหม่เป็นซีรี่ส์ Robotech ความยาวจำนวน 85 ตอน ออกฉายในปี 1985 หลังจากนั้นทาง Harmony Gold ก็ทำการฉายภาคต่อ Robotech II : The Sentinels ในปี 1986 และ Robotech : The Shadow Chronicles ในปี 2006
ทาง Harmony Gold ได้ทำการเซ็นสัญญาสร้างภาพยนตร์คนแสดงมาแล้วถึงสองครั้ง : ครั้งแรกในปี 2007 กับทาง Warner Brothers ก่อนจะเซ็นอีกครั้งในปี 2016 กับทาง Columbia Pictures นับตั้งแต่การเซ็นสัญญาพัฒนาภาพยนตร์คนแสดงก็ยังไม่มีหนังเรื่องใดๆ ออกมาฉาย แต่ทางเว็บไซต์ Deadline ได้ออกรายงานเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า Jason Fuchs ผู้เขียนบท Wonder Woman กำลังทำการเขียนบทให้กับภาพยนตร์ Robotech อยู่
จากการตกลงในปี 1991 ทาง Tatsunoko ได้ขยายสิทธิ์กับทาง Harmony Gold ที่จะสามารถใช้ประโยชน์จาก มาครอส จำนวน 36 ตอน, มอสปีด้า จำนวน 25 ตอน และ เซาท์เทิร์นครอส จำนวน 23 ตอน (คาดว่าเป็นตอนที่ถูกตัดต่อไปสร้างเป็น Robotech) เป็นจำนวนเวลาสิบปี ก่อนที่จะมีการตกลงยืดระยะเวลาออกไปในปี 1998 และ ปี 2002 จึงทำให้สิทธิ์ต่างๆ นั้นขยับไปหมดลงในวันที่ 14 มีนาคม 2021 แทน
กรณีของ Big West
ในช่วงปี 1998 บริษัทด้านโฆษณาและเป็นผู้ร่วมผลิต มาครอส อย่าง Big West ได้ยื่นฟ้องทาง Tatsunoko ด้วยรายละเอียดทีว่าทาง Tatsunoko ไม่ใช่ผู้ที่มีสิทธิ์ทำภาคต่อของ มาครอส ซึ่งในปี 2003 ทางศาลของประเทศญี่ปุ่นได้ตัดสินให้ผลประโยชน์แก่ทาง Tatsunoko โดยกล่าวว่าทาง Tatsunoko สามารถมอบสิทธิ์ให้กับทาง Harmony Gold ได้ แต่ทาง Big West จะเป็นเจ้าของสิทธิ์ 41 ดีไซน์ดั้งเดิมที่ออกแบบไว้กับมาครอสภาคแรก
ผลจากการตัดสินเช่นนี้ ทำให้การยืดสิทธิ์ของทาง Tatsunoko กับทาง Harmony Gold ใน ปี 1998 ที่รวมไปถึงการสร้างภาคต่อของอนิเมะทั้งสามเรื่องนี้กลายเป็นข้อกังขาขึ้นมา แต่เมื่อมีการต่อสัญญาในปี 2002 ข้อตกลงในปีนั้นนับเฉพาะในส่วนของ มอสปีด้า กับ เซาท์เทิร์นครอสเท่านั้น ก่อนที่จะมีการทำข้อตกลงเพิ่มเติในปี 2003 ให้ทาง Harmony Gold สามารถทำเนื้อหาสืบเนื่องจาก มาครอส ได้ ยกเว้นในส่วนที่ทาง Big West เป็นผู้ถือสิทธิ์ในการออกแบบไว้ ซึ่งทาง Tatsunoko ได้ส่งเรื่องให้ศาลเพื่อแย้งข้อสัญญานี้ แต่ศาลยกคำฟ้องไป
และผลพวงจากเปิดศึกทางกฎหมายของ Big West ทำให้ทาง Tatsunoko ร้องขอให้ทาง Harmony Gold เข้าทำการดูแลเครื่องหมายการค้า ‘มาครอส (Macross)’ นอกเกาะญี่ปุ่น ซึ่งทาง Harmony Gold จะได้ลดค่าธรรมเนียมจากค่าลิขสิทธิ์ที่จะต้องจ่ายให้ Tatsunoko จากกรณีนี้ ซึ่งทาง Tatsunoko ได้ยื่นแย้งเรื่องนี้ต่อศาลในภายหลัง แต่ศาลก็ยกประโยชน์ให้ Harmony Gold เ
ทั้งนี้ทาง Harmony Gold ที่ดูแลสิทธิ์ครื่องหมายการค้า ‘Macross’ และเพิ่งจะต่อเพิ่มระยะเวลาการถือครองสิทธิไปเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ปี 2012 ซึ่งเดิมทีแล้วสัญญาจะมีกำหนดสิ้นสุดในสิบปีให้หลัง แต่จากการตัดสินของศาลแคลิฟอร์เนีย น่าจะทำให้สิทธิ์ในการดูแลเครื่องหมายการค้าไม่ยืนยาวไปจนถึงปี 2022 ตามที่เคยเซ็นสัญญาไว้
Leave a Reply