เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ปี 2020 ที่ผ่านมา คุณโทมิโนะ โยชิยูกิ ผู้สร้างเฟรนไชส์กันดั้ม กับ คุณยาสุฮิโกะ โยชิคาซุ ผู้ออกแบบตัวละครดั้งเดิมให้กันดั้มภาคแรก ได้มาร่วมกันพูดคุยในโอกาสครบรอบ 75 ปี วันอาลัยผู้เสียชีวิตในสงครามและภาวนาเพื่อสันติภาพ ในบทสัมภาษณ์ดังกล่าว คุณโทมิโนะ ได้พูดถึงการใช้เรือรบ หรือ รถถัง ในสื่อบันเทิง เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าความขัดแย้งไม่ได้รับความสำคัญจากคนรุ่นหลังแล้ว
‘ในโลกของอนิเมะ มีเรื่องราวอย่าง Girls Und Panzer และ Kan Colle ออกมา มันมีส่วนหนึ่งที่ผมรับได้ในฐานะสื่อบันเทิง แต่ผมก็สงสัยว่ามันจะดีจริงๆ เหรอ สำหรับคนรุ่นผมแล้ว มันมีความคิดว่า ‘สงครามไม่ควรถูกนำเสนอออกมาแบบนี้’ มันเลยทำให้ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่’
คุณโทมิโนะ ยังได้กล่าวชื่นชมภาพยนตร์อนิเมะ แค่วาดฝันให้โลกสวย ของคุณ Katabuchi Sunao ว่าเป็น ‘งานหายาก’ ที่เล่าเรื่องราวความขัดแย้งจากมุมมองของประชาชนชาวญี่ปุ่นและกองทัพมีผลต่อชีวิตของประชาชนอย่างไร
‘ผมไม่รู้ว่าจะมีงานเรื่องอื่นเหมือนเรื่องนั้นอีกไหม’ คุณโทมิโนะเอ่ย
จากนั้น คุณโทมิโนะ ก็ข้ามไปพูดเกี่ยวกับว่า ทุกเดือนสิงหาคมของทุกปี จะมีการรำลึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ในมุมมองของเขาแล้วการสนทนาระดับชาติ มักจะมีเพียงเรื่องการใช้ชีวิตของผู้ที่เป็นเหยื่อของความขัดแย้ง แต่คนญี่ปุ่นไม่ได้คิดเกี่ยวกับสงครามจากมุมมองความเป็นจริงแล้วมาถกกันว่า กองกำลังป้องกันตนเอง นั้นเป็นเรื่องที่ดีหรือร้ายกันแน่
คุณโทมิโนะ กล่าวว่าญี่ปุ่นจะไม่พบกับสงครามอีก และตอนนี้ก็ถูกปูพรมด้วยปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมแบบต่างๆ แทน อาทิ เรื่องพลังงาน, อาหาร, น้ำ, และขยะพลาสติก ก่อนที่จะเขาจะพูดเชิงประชดประชดว่า ถึงแม้จะมีปัญหาเร่งด่วนเหล่านี้อยู่ แต่ก็สงสัยว่ากองกำลังป้องกันตัวเองของญี่ปุ่นอาจจะต้องสร้างกองยานอวกาศก็เป็นได้
จากนั้นคุณโทมิโนะ ก็พูดถึงมุมมองของสาธารณชนปัจจุบันที่มองเรื่องของการทหารเป็นเรื่อง ‘เท่’
‘ไม่มีอะไรเท่เกี่ยวกับมันเลย’ คุณโทมิโนะกล่าว ‘นั่นเพราะว่า สงครามไม่ควรเกิดขึ้น น่าเสียได้ที่พวกเราจะไม่สามารถกำจัดมันไปได้ ต้องขอบคุณสำหรับผู้ที่หลงผิดที่คอยแต่โหยหามัน’ หนึ่งในบิดาของกันดั้มกล่าวว่า ผลงานชิ้นต่อไปของเขาจะไม่มีสงครามแล้ว แต่ เรือรบอวกาศยามาโตะจะออกฉายภาคต่อไป ‘แม้ว่าผมจะไม่รู้ว่ามันจะออกมาเป็นอย่างไรก็เถอะ’ คุณโทมิโนะกล่าวทิ้งท้าย
ส่วนคุณยาสุฮิโกะ โยชิคาซุ ก็มาออกความเห็นเกี่ยวกับสงครามและมนุษยชาติ
‘พวกเรานั้นล้วนเป็นคนโง่’ คุณยาสุฮิโกะเอ่ย ก่อนจะไล่เรียงต่อว่าสงครามนั้นเกิดขุึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ‘สิ่งที่ทำให้พวกเราสามารถยังคงครองสติสัมปชัญญะไว้ได้ ไม่ใช่ศาสนา, ความยุติธรรม, ชาตินิยม, หรืออะไรแบบนั้น ผมคิดว่าพวกเราควรนึกถึงมุมมองของคนตัวเล็กตัวน้อยที่ไร้อำนาจ และติดอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง แล้วเราจะเห็นตัวตนของพวกเราในกลุ่มคนเหล่านั้น เมื่อมนุษยชาติไม่สามารถมองไปยังผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อคนตัวเล็กตัวน้อยทั้งหลาย พวกเขาก็มักจะทำความผิดพลาดอย่างมหันต์ให้เกิดขึ้น’
คุณยาสุฮิโกะ ได้พูดถึงวิธีการที่เขาคิดในการวาดมังงะเรื่อง Inui to Tatsumi -Siberia Shuppei Hishi- (อินุอิ กับ ทัตสึมิ – ประวัติศาสตร์ลับศึกตีไซบีเรีย) มังงะที่เกี่ยวข้องกับสงครามที่บอกเล่าเกี่ยวกับสงครามยึดครองไซบีเรีย ‘การส่งทหารเข้าไปบุกนั้น ถ้ามองจากมุมมองของคนอื่นทั่วโลกก็จะมองว่าเป็นเรื่องที่โง่เง่ามาก แต่ยิ่งผมทำการค้นคว้าเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ ผมก็เข้าใจมากขึ้นว่า พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ผมเลยระลึกได้ว่าผมอยากจะบอกพรรณาเรื่องราวของคนไร้อำนาจว่าพวกเขาจะทำอย่างไรเมื่อถูกควบคุมอย่างหนัก’
คุณยาสุฮิโกะยังอธิบายว่า การที่เขามาเขียนการ์ตูนประวัติศาสตร์และสงครามนั้นมาจากการที่เขาเกิดในชวงเวลาที่โชคร้ายไปสักหน่อย หากเขาเกิดเร็วกว่านั้นอีกสองสามปี เขาอาจจะถูกไฟคลอกตายในช่วงที่มีการทิ้งระเบิดก็ได้ แต่เมื่อเขาเกิดมาหลังจากเวลานั้นเพียงเล็กน้อย เขาจึงใช้ชีวิตอยู่โดยไม่รู้สึกกถึงความเจ็บปวดและความยากลำบากของพ่อแม่ที่เจอในช่วงเกิดสงคราม
‘พวกเรา ที่เกิดและได้รับการศึกษาในยุคประชาธิปไตยหลังสงคราม ไม่ค่อยให้ความเคารพพวกเขา พวกเราตำหนิพวก: ‘ทำไมถึงเป็นพวกนายที่ทำเรื่องผิดพลาด ทำไมพวกนายถึงเข้าร่วมสงครามที่งี่เง่าแบบนั้น’ แต่คนที่ผจญความทุกข์ในยุคสงครามกลับพูดถึงความทุกข์ของพวกเขาเพียงน้อยนิด และเพราะพวกเขาไม่ทำการตอบโต้ใดๆ พวกเราเลยยิ่งสนุกปากเข้าไปอีก แต่พวกเรานั้นเป็นแค่คนพวกเที่ไม่คิดจะทำความเข้าใจความทุกข์ของพวกเขา เพราะฉะนั้นผมถึงรู้สึกว่าควรจะต้องทำอะไรให้คนรุ่นนั้นบ้าง ด้วยการบอกเล่าว่า คนรุ่นนั้นเองก็ผ่านเรื่องที่โหดร้ายมาเช่นกัน’
Source: Chunichi Shimbun
Leave a Reply