มือเก๋าในอุตสาหกรรมอนิเมะวิพากษ์การเปิดระดมทุนของ Anime Tube ว่าเป็น ‘เป็นการหลอกหลวงโดยแท้’

Share

นับตั้งแต่การเปิดตัวระดมทุนผ่านทาง Kickstarter เมื่อวันอังคารที่ 6 กรกฎาคม ปี 2021 ที่ผ่านมา แอพพลิเคชั่นที่ใช้ชื่อว่า ‘Anime App’ ก็ได้รับยอดระดมทุนไปมากกว่า 100,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ ตัวแคมเปญดังกล่าวสัญญาว่า จะนำอนิเมะให้รับชมออนไลน์แบบ ‘ฟรี’ และจะแก้ไขปัญหาของการที่บริการรับชมรายการออนไลน์ที่มีในตอนนี้ อย่างเช่นการที่แต่ละบริการมีอนิเมะจำนวนจำกัด อย่างไรก็ตามคนทำงานมือเก๋าในอุตสากรรมอนิเมะและการ์ตูนลิขสิทธิ์ต้องวิพากษ์ว่าการระดมทุนครั้งนี้เป็นเรื่องที่เกินจริง

‘ทุกคนทีสนใจหรืออยากจะร่วมระดมทุนให้กับ AnimeTube ผ่านทาง Kickstarter ควรจะ …. หยุด’ คุณ Justin Sevakis เจ้าของกิจการของบริษัท Media OCD ผู้รับผิดชอบด้านงานผลิตแผ่นอนิเมะและภาพยนตร์ทวิตเตือน ‘พวกเขามาเปิดรูปแบบธุรกิจช้าไปราวเกือบทศวรรษ และต้องเข้ามาแข่งขันกับ Netflix, Warner Media, NBC Universal … ไม่ใช่แค่นั้น ขนาด Disney ยังสนใจจะซื้อสิทธิ์ฉายอนิเมะแบบสตรีมมิ่งเลย’

ณ ช่วงที่ AnimeTube เปิดระดมทุนผ่านทาง Kickstarter ได้มีการลงลิงค์รายชื่อผลงานที่ Anime Tube ระบุว่ากำลัง ‘อยู่ในขั้นตอนการเจรจา’ ในการซื้อสิทธิ์ รายชื่อดังกล่าวมีอนิเมะมากกว่าร้อยเรื่องซึ่งมีผู้จัดจำหน่ายเจ้าอื่นถือสิทธิ์การทำตลาดในพื้นที่อเมริกาเหนือไว้แล้ว ซึ่งคุณ Shawne Kleckner ผู้เป็น CEO ของทาง Nozomi Entertainment และเป็นผู้ก่อตั้ง Right Stuf บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแผ่นและสินค้าอนิเมะได้ทวิตอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับ AnimeTube ว่า ‘ทำไมคุณถึงใส่ชื่อสินค้าของทางผมลงไปในส่วน ‘ลิขสิทธิ์อนิเมะที่อยู่ในขั้นตอนการเจรจา’ ล่ะ? พวกเราไม่เคยเจรจาอะไรกับคุณเลย’

หลังจากนั้นทางหน้า Kickstarter ของ AnimeTube ก็ได้ลบรายชื่ออนิเมะดังกล่าวไป รวมถึงยังมีข้อความทวิต ที่ตอนนี้ลบไปแล้วจากทาง AnimeTube ตอบกลับคุณ Shawne Kleckner ไปว่า ‘สวัสดี Shawn พวกเราติดต่อคุณผ่านทาง Linkedln เพื่อจะพูดคุยโดยตรงกับคุณ’

ผู้ริเริ่มโครงการ AnimeTube คุณ George Weller ได้ทำการส่งอีเมล์อธิบายเกี่ยวความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนให้กับทีมงาน AnimeNewsNetwork ไว้ดังนี้:

‘พวกเรากำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจากับทางบริษัทผู้สร้างอนิเมะจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อซื้อสิทธิ์ในการฉายแบบสตรีมมิ่ง และเพื่อความโปร่งใส ในเจตนาของพวกเราต้องการให้ผู้ที่สนับสนุนพวกเราทาบว่ามีอนิเมะเรื่องไหนบ้างที่พวกเราอยากจะซื้อสิทธิ์ พวกเราได้เตรียมรายชื่อที่พวกเราเคยเจรจากับบริษัทอนิเมะจากประเทศญี่ปุ่นที่จะซื้อสิทธิ์การฉายสตรีมมิ่ง พวกเราติดต่อบริษัทอนิเมะจากประเทศญี่ปุ่นที่สร้างอนิเมะเพื่อที่จะตัดสินใจว่าพวกเราสามารถซื้อสิทธิ์และจะต้องติดต่อใคร พวกเราได้รับการแจ้งจากทาง AJA (Association of Japanese Animations) ว่าช่องทางการติดต่อต้องติดต่อบริษัทผลิตอนิเมะจากประเทศญี่ปุ่นก่อน และนั่นอาจจะทำให้เกิดความสับสนบนข้อเท็จจริงว่าตัวแทนสิทธิ์ในอเมริกาหวังว่าพวกเราจะทำการติดต่อพวกเขาก่อน’ คุณ George Weller ระบุไว้ในอีเมล์

คุณ Jacob Grady ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์และผู้จัดจำหน่าย Fakku ได้แสดงความกังขาเกี่ยวความน่าเชื่อถือของทีมงาน AnimeTube ผ่านทวิตเตอร์ไว้ว่า ‘ผมเคยเจอพวกนี้มาก่อน หลอกลวงทั้งเพ’

คุณ George Weller โต้ตอบข้อความข้างต้นเอาไว้ว่า ตัวเขาไม่เคยเจอ ของคุณ Jacob Grady มาก่อน ‘ผมไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับบุคคลนี้หรือเคยติดต่อกับเขาโดยไม่รับทราบมาก่อน’ ก่อนที่ Jacob Grady จะออกมาปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพูดคุยกับ AnimeTube เมื่อในอดีต โดยระบุว่ามีข้อจำกัดทางกฎหมาย

แคมเปญ Kickstarter ยังถูกวิพากษ์จากการใช้ภาพอนิเมะที่พวกเขาไม่ได้ถือสิทธิ์ใดๆ ในการโปรโมทแคมเปญ อาทิ ภาพจากอนิเมะ Sword Art Online, Fullmetal Alchemist, Attack on Titan, และ Death Note ในปัจจุบันนี้ได้มีการนำภาพทั้งหมดออกไปแล้ว แต่ ณ ขณะที่จัดทำข่าวนี้ ในทวิตเตอร์และคลิปบน YouTube ของ AnimeTube ยังมีการใช้ภาพของผลงานอนิเมะข้างต้นในการโปรโมทอยู่ และยังมีการใช้คลิปจากอนิเมะ Boruto ในหน้าโฮมเพจของ animeTube แม้ว่าจะมีการระบุว่า ‘การนำเสนอสินค้าและภาพ มีไว้เพื่อการสาธิตเท่านั้น’

‘ข้อเท็จจริงที่พวกเขาใช้ IP เหล่านั้น (หมายถึงอนิเมะที่อยู่ในโฆษณา) เพื่อขายบริการก่อนที่จะได้รับข้อตกลงในการใช้สิทธิ์ มันทำให้ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าของสิทธิ์จะยินดีที่จะทำงานร่วมกับพวกเขา แม้ว่าพวกเขาอาจจะมีโอกาสเคยได้ทำงานร่วมกันมาก่อน’ คุณ Miles Thomas หัวหน้าแผนกการตลาดของบริษัท Anime Limited (และเคยทำงานที่ Crunchyroll) ทวิตให้ความเห็น

หน้าเว็บไซต์ Kickstarter ของทาง AnimeTube ยังอ้างว่า พวกเขาได้ทำการติดต่อกับทาง AJA หรือ Association of Japanese Animations มาก่อนแล้ว ซึ่งคุณ Justin Sevakis ได้ทวิตถึงเรื่องนี้ไว้ว่า ‘สิ่งที่ผมชอบที่สุดของ Kickstarter นี้ก็คือการที่เขามีแต้มต่อในการติดต่อลิขาสิทธิ์ เพราะพวกเขาได้พบ AJA มาแล้ว AJA ไม่ใช่หน่วยงานลิขสิทธิ์ พวกเขาเป็นสมาคมการค้า!! พวกเขาเป็นตัวแทนของสตูดิโอที่รวมตัวกันเท่านั้น’ จากนั้นการอ้างอิงถึงหน่วยงานดังกล่าวก็ถูกนำออกไปจากหน้า Kickstarter

ทาง AnimeTube ก็ได้ส่งอีเมล์ให้ทาง ANN เกี่ยวกับเรื่องของ AJA โดยมีใจความดังนี้:

‘เราได้รับการแจ้งข่าวมาก่อนหน้านี้ว่าทางหน่วยงาน (AJA) ประทับใจ และดีใจกับทุกสิ่งที่เรานำเสนอ โดยเฉพาะคอนเซปท์ของ Aimi-Chan (ระบบ AI ที่ AnimeTube ระบุว่าจะช่วยผู้ชมอนิเมะในแอพ) และพวกเขาได้สนับสนุนพวกเราอย่างเต็มที่ในการซื้อสิทธิ์สตีมมิ่งและเข้าไปมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรม เรื่องอื่นๆ นอกจากนี้ถือว่าเป็นความลับทางธุรกิจ เราหวังว่าคุณจะเข้าใจว่าพวกเราไม่สามารถเปิดเผยทุกอย่างเกี่ยวกับการเจรจาทางธุรกิจได้’

ก่อนหน้านี้ AnimeTube เคยจัดแคมเปญ Kickstarter ในช่วงเดือนมิถุนายน ปี 2021 และทำเงินระดมทุนได้ถึง 63,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ แต่ไม่สามารถทำยอดได้ถึงเป้า 285,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐได้ ก่อนที่จะมีการเปิดแคมเปญใหม่ที่ตั้งยอดไว้ที่ 50,000 เหรียญดอลลาร์ และได้มีการปรับเปลี่ยนรางวัลใหม่ คุณ George Weller ได้ทำการแจ้งว่าปรับเปลี่ยนนี้ถูกพิจารณาในวันแรกของการเปิดระดมทุนครั้งแรก

‘ทีมของพวกเราตกลงกันว่า ยอดรายได้ 50,000 เหรียญ เป็นยอดขั้นต่ำที่พวกเราต้องการสำหรับค่าใช้จ่ายและการพัฒนาแอพตามที่ระบุไว้ (โดยไม่รวมถึงเป้าหมายเพิ่มเติม) อย่างไรก็ตามพวกเราตัดสินใจที่จะปิดแคมเปญและเริ่มต้นใหม่อีกครั้งภายในเวลาหนึ่งเดือน ทั้งยอดสำหรับแค่ละแคมเปญเป็นยอดที่ครอบคลุมไปถึงค่าใช้จ่ายด้านกราฟฟิกที่เราได้แบ่งเป็นค่าต้นทุนจากเป้าหมายระดมทุน นอกจากนี้พวกเรายังรู้ต้องการปรับปรุงด้านการประชาสัมพันธ์ด้วย’

บริษัท Game Face ที่มีฐานที่มั่นอยู่ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส เป็นผู้รับผิดชอบแคมเปญของ AnimeTube ตัวบริษัทแจ้งว่าเป็น ‘ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นพกพาที่มีประสบการณ์พัมนาแอพมามากกว่า 10 ปี พวกเาได้ทำการพัฒนาแอพพลิเคชั่นพกพาสำหรับ Windows 10 ละ Xbox One มาหลายสิบแอพ ด้วยเรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 4.7 จาก 5 ดาว’ เว็บไซต์ทางการของ Game Face ระบุว่าแอพพลิเคชั่น ‘SoundHead’ เป็นหนึ่งในผลงานของพวกเขา

แอพพลิเคชั่น Game Face แอพพลิเคชั่นที่ถูกถอดออกจาก Microsoft Store ในปี 2020 แม้ว่าจะทางเพจ Kickstarter จะไม่ได้ระบุว่ามีความเชื่อมโยงกับทาง AnimeTube แต่ตัวแอพดังกล่าวซึ่งใช้วิธีดึงคลิปวิดีโอจากแหล่งข้อมูลหลายแห่งรวมถึงคลิปละเมิดลิขสิทธิ์ใน YouTube ระบุว่ามีทางบริษัท Aeon Enterprise เป็นผู้พัฒนาและตัว Game Face กับ Aeon Enterprise ใช้ที่อยู่เดียวกันในการจดทะเบียนบริษัท ซึ่งคุณ George Weller ยังได้ยืนยันว่าทีมงานของพวกเขาเป็นผู้จัดจำหน่ายแอพดังกล่าวจริง

‘เดิมทีแล้วพวกเราทำการสตรีมมิ่งอนิเมะผ่านทาง API ของ YouTube ที่พวกเราเคยคิดว่าเป็นคลิปที่ได้รับอนุญาต หรือไม่ได้รับการค้ดค้านจากทางผู้ถือสิทธิ์ (และมีหลายสิบแอพในตลาดที่ทำการสตรีมมิ่งผ่านแชนแนล YouTube เดียวกัน) เราไม่เคยเป็นโฮสต์ให้กับเนื้อหาใดๆ บนเซิร์ฟเวอร์ของทางเราเองไม่ว่าเมื่อใดก็ตาม หรือแม้แต่การทำการอัพโหลดเนื้อหาใดๆ บน YouTube พวกเราได้ก้าวเข้ามาสู่การซื้อสิทธิ์โดยตรงจากผู้ถือสิทธิ์ เพื่อสร้างบริการที่น่าเชื่อถือ และเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเราไม่ได้ให้บริการเนื้อหาที่ไม่ได้รับอนุญาตโดยไม่ได้เจตนา’ คุณ George Weller กล่าว

ทางทีมงานของ AnimeTube ยังหวังว่าพวกเขาจะสามารถต่อสู้กับการละเมิดลิขสิทธิ์ได้ด้วย

‘สุดท้ายในหัวข้อนี้ พวกเราวางแผนที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่แอพพลิเคชั่นและเว็บไซต์ต่างๆ ได้ทำการสตรีมมิ่งเนื้อหาที่พวกเขาอาจจะไม่ใช่ผู้ถือสิทธิ์ พวกเราได้นำเสนอต่อทาง AJA และบริษัทผู้ผลิตอนิเมะว่า เนื่องจากตอนนี้ยังขาดการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายในอเมริกา ณ เวลานี้’

คุณ Miles Thomas ได้ทำการออกความเห็นถึงข้อแต่งตากระหว่าง AnimeTube กับ Crunchyroll ไว้ดังนี้: ‘บริษัทดังกล่าว (Game Face) ไม่ยอมรับภูมิหลังของบริษัทตนเอง, และไม่ได้ใช้ตัวเลือกอื่นทางกฎหมาย, อย่างน้อยก็ไม่ได้หยิบจับงานที่ไม่มีผู้ถือสิทธิ์เหมือนครั้งที่ CrunchyRoll เคยเป็นบริการผิดกฏหมาย และในตอนนั้นทาง CrunchyRoll ก็ยินยอมที่จะลบไฟล์ที่บริษัทผู้ถือสิทธิ์จากญี่ปุ่นทำการร้องขอมา’

ในหน้าคำถามที่ถูกถามบ่อยของทาง AnimeTube ระบุว่าค่าลิขสิทธิ์ในการสตรีมมิ่ง ไม่ได้มีราคา ‘หลักแสนหรือหลักล้านดอลลาร์’ ทั้งยังระบุว่า ‘ใครก็ตามที่ให้รายละเอียดว่าค่าสิทธิ์ในการสตรีมมิ่งมีราคาเท่าไหร่ ถ้าเขาไม่ได้พูดความจริง หรือไม่กล้าแหกสัญญาที่จะไม่เปิดเผยข้อมูล’

คุณ Merryweather ศิลปินผู้วาดเว็บคอมิกที่ทำการวาดภาพสปอนเซอร์ให้กับ Kickstarter ของ AnimeTube ได้ทำการทวิต ยุติการวาดภาพสนับสนุนโครงการดังกล่าว และระบุว่าพวกเขาได้ทำการคืนเงินสปอนเซอร์ของโครงการนี้ และได้รับปากว่าจะทำการตรวจสอบข้อมูลลูกค้าที่ว่าจ้างให้ละเอียดขึ้นในอนาคต

‘ถ้าหากคุณร่วมระดมทุนแล้ว คุณควรจะถอนการระดมทุนดังกล่าวก่อนที่จะหมดช่วงได้รับเงินคืน ถ้าหากคุณระดมทุนเงินเป็นจำนวนมากและไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ โปรดติดต่อฉันใต้ทวิตข้อความนี้และฉันจะทำการชดเชยให้คุณเป็นการส่วนตัว’

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*