รัฐบาลท้องถิ่นจังหวัดไอจิ ได้ประกาศข่าวว่า พื้นที่ส่วน Majo No Tani ของ Ghibli Park ที่เดิมมีแผนการจะเปิดให้บริการในช่วงปลายปี 2023 จะย้ายไปทำการเปิดให้บริการในช่วงเดือนมีนาคม ปี 2024 แทน
พื้นที่ส่วนดังกล่าวจะได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์เรื่อง Kiki’s Delivery Service แม่มดน้อยกิกิ โดยจะมีการจำลองบ้านของกิกิจากภาพยนตร์ ทั้งยังมีการจำลองพื้นที่ส่วนหนึ่งจาก Howl’s Movie Castle ปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์ และบ้านที่จำลองมาจาก Earwig And The Witch มหัศจรรย์แม่มดอาย่า
อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ของ Ghibli Park จะทำการเปิดให้บริการ วันที่ 1 พฤศจิกายน ปี 2022 โดยจะมีการเปิดพื้นที่ Ghibli No Daisoko Area (โรงเก็บของจิบลิขนาดใหญ่) และ Dondoko Mori Area (ป่าดอนโดโกะ) ก่อน แล้วตามด้วยการเปิดให้บริการ Momonoke No Sato Area (หมู่บ้านโมโมโนะเกะ) ในช่วงปลายปี 2023
Dondoko Mori Area (ป่าดอนโดโกะ) จะเป็นพื้นที่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเขตชนบทในยุคโชวะ โดยจะมีการจำลองศาลเจ้ากับทางเดินที่มาจากภาพยนตร์เรื่อง My Neighbour Totoro โทโทโร่เพื่อนรัก และจะมีสนามเด็กเล่นโทโทโร่ ความสูง 5.2 เมตร ที่สามารถเปิดให้เด็กประถมเข้าไปเล่นได้ครั้งละห้าคน
ฝั่ง Ghibli No Osoko Area จะมีพื้นที่ราว 9,600 ตารางเมตร และจะมีพื้นที่มากกว่า Ghibli Museum ที่อยู่ในกรุงโตเกียวถึง 4 เท่า
และ Ghibli Park ยังมีแผนการสร้างเรือเหาะความยาว 6.3 เมตร ที่มาจากภาพยนตร์ Castle In The Sky ลาพิวต้า พลิกตำนานเหนือเวหา
![]()
จังหวัดไอจิ กับทาง Studio Ghibli เคยร่วมมือกันเปิดสวนที่ใช้พื้นที่ราว 200 เฮคเตอร์ เปิดสวน Expo Park หรือที่รู้จักกันในชื่อ Moricoro Park ในสถานที่ที่เคยจัดงาน World Fair ในปี 2005 ในสวนดังกล่าวมี “บ้านของซัตสึกิกับเมย์” ซึ่งจำลองมาจากภาพยนตร์โทโทโร่เพื่อนรัก (My Neighbourhood Totoro) และบ้านหลังดังกล่าวยังถูกใช้ในการจัดงานนิทรรศการของ Studio Ghibli ในปี 2008 กับ 2015



ทีมงานผู้ดูแลธีมพาร์คแห่งนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าชมจำนวนหนึ่งล้านคนการเปิดให้บริการปีแรกกับพื้นที่สามส่วนแรก และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมปีละหนึ่งล้านแปดแสนคนหลังจากตัวธีมพาร์คเปิดให้บริการทุกพื้นที่แล้ว เพื่อรองรับจำนวนผู้เข้าชมที่มากขนาดนั้น จึงมีการจัดถนนและสร้างที่จอดรถสำหรับรถจำนวน 1,500 คัน และมีมาตรการควบคุมการจราจรในพื้นที่
การออกแบบธีมพาร์คแห่งนี้เริ่มต้นขึ้นในช่วงปี 2019 และได้มีการวางศิลาฤกษ์ในการก่อสร้างช่วงเดือนกรกฎาคม ปี 2020 ส่วนการก่อสร้างในพื้นที่ Momonoke No Sato Area (หมู่บ้านโมโมโนะเกะ) และ Majo No Tani Area (หุบเขาแม่มด) เริ่มขึ้นในปีนี้ และการก่อสร้างจะใช้เวลาราว 2-3 ปี
ทางจังหวัดไอจิ ได้ลงมติเห็นชอบในการธีมพาร์คแห่งนี้ในปี 2017 ก่อนที่ตัวเอกสารยืนยันในการสร้างจะเสร็จสิ้นเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2018 ทีมผู้สร้างสวนสนุกแห่งนี้ได้ออกแบบธีมพาร์คขั้นต้นเมื่อเดือนเมษายน ปี 2018 และเดิมทีมีกำหนดเปิดทำการในปี 2020 และทาง Studio Ghibli และ Chunichi Shimbun รร่วมกันเปิดบริษัท Ghibli Park เพื่อมาทำหน้าที่รับผิดชอบจัดการบริหารธีมพาร์คแห่งนี้ และบริษัทดังกล่าวจะทำการวางแผนงานรวมถึงผลิตสินค้าใหม่ๆ สำหรับสวนสนุก รวมถึงการบริหารงานร้านอาหารและคาเฟ่ของตัวธีมพาร์คด้วย
ทางจังหวัดไอจิตั้งเป้าหมายที่จะทำให้สวนดังกล่าวเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ทั้งทาง Studio Ghilbi และเขตปกครองท้องถิ่นจะเป็นผู้ระดมทุนเปิดบริษัทที่จัดการบริหารสวนแห่งนี้
ในขณะที่มีการพัฒนาสวนดังกล่าว จะกระทำการก่อสร้างจะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายด้วยการตัดต้นไม้ภายในสวนหรือวิธีการอื่นๆ
ทาง Studio Ghibli ยังเปิดทำการพิพิธภัณฑ์ Ghibli Musuem ที่เขตมิทากะที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของกรุงโตเกียว ซึ่งมีการจัดนิทรรศการพร้อมกับการจำลองผลงานอันเป็นเอกลักษณ์ของทาง Ghibli รวมไปถึงยังมีการฉายภาพยนตร์อนิเมชั่นขนาดสั้นของ Ghibli ทั้งเรื่องเก่าและใหม่ด้วย

Leave a Reply