หนังสือพิมพ์ Asahi Shimbun ได้ออกรายงานข่าวเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ปี 2021 อ้างข้อมูลของทาง Authorized Books of Japan (ABJ) องค์กรประสานงานในการต่อสู้กับมังงะละเมิดลิขสิทธิ์ที่มีฐานที่มั่นในกรุงโตเกียว ที่ระบุว่าเว็บไซต์อ่านมังงะเถื่อนในกลุ่ม Top 10 มีผู้เข้าชมราวเดือนละ 240 ล้านครั้ง ตั้งแต่เว็บไซต์ Mangamura ไม่สามารถใช้งานได้เมื่อวันที่ 17 เมษายน ปี 2018
ทาง ABJ ยังได้เทียบเคียงว่า ตอนเว็บไซต์ Mangamura ยังเปิดให้บริการอยู่ที่ผู้เข้าชมราวเดือนละ 100 ล้านครั้ง
ABJ ยังได้พบว่ามีเว็บไซต์มังงะเถื่อนราว 750 แห่ง เปิดให้บริการหลังจากการปิดเว็บไซต์ Mangamura
รายงานข่าวของทาง Asahi Shimbun ยังระบุว่าความเสียต่ออุตสาหกรรมมังะในญี่ปุ่นลดลงชั่วคราวหลังจากเว็บไซต์ Mangamura ปิดตัวลงไป แต่ตัวเลขเว็บไซต์มังงะละเมิดลิขสิทธิ์ก็มียอดสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2019 จากข้อมูลของทาง ABJ ระบุว่า เว็บไซต์สามอันดับแรกมียอดผู้เข้าชมมากว่าเดิมถึง 14 เท่า ในช่วงเดือนมกราคม ปี 2020 จนถึงเดือนเมษายน ปี 2021
คุณ Ito Atsushi หัวหน้าแผนกสื่อสารมวลชนและแผนกกฎหมาย (และยังเป็น ผู้ดูแลแผนกต่อต้านการละเมิดสิทธิ์ของ Shueisha กล่าวว่า ‘สถานการณ์ตอนนี้เลวร้ายกว่าตอนที่ Mangamura รุ่งเรืองเสียอีก’ ทางคุณ Ito มีความเห็นว่ายอดการรับชมเว็บเถื่อนมากขึ้นเพราะ ‘ไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่ต้องอยู่ติดบ้าน’ อันเป็นผลพวงจากการแพร่กระจายของไวรัสโควิด 19
ทาง Shueisha ได้ยื่นดำเนินคดีทางกฎหมายราว 10 ครั้งต่อปี และมีการออกคำเตือนราวเดือนละ 120,000 ครั้งเพื่อให้เว็บไซต์, เซิร์ฟเวอร์, ผู้ให้บริการ, และกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องตัดสินใจทำการลบผลงานที่กระทำการละเมิดลิขสิทธิ์
กรณีการปิดและจับกุมเว็บไซต์ Mangamura
ศาลเมืองฟุกุโอกะได้ทำการพิพากษาเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ปี 2021 ให้ คุณ Hoshino Romi หรือ Zakay Romi ผู้ดูแลเว็บไซต์มังงะเถื่อน Mangamura ผิดจริงในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ และปกปิดความผิดทางอาญา คุณ Hoshino Romi วัย 29 ปี ถูกตัดสินให้รับโทษจำคุก 3 ปี กับมีการคิดค่าปรับจำนวน 10 ล้านเยน และมีการคิดค่าปรับเพิ่มเติมอีกจำนวน 62 ล้านเยน จำนวนค่าปรับที่เพิ่มเติมเข้ามา ถูกอ้างอิงมาจากรายได้ที่คุณ Hoshino ได้รับจากเว็บไซต์มังงะเถื่อนและทำการโอนเงินดังกล่าวไปยังบัญชีที่อยู่ต่างประเทศ
เว็บไซต์ Mangamura เปิดตัวในปี 2016 ก่อนที่ทางการญี่ปุ่นได้รายงานเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2018 ว่าพวกเขากำลังทำการสืบสวนเกี่ยวกับเว็บไซต์ Mangamura หลังจากทาง Kodansha และสำนักพิมพ์อื่นๆ อีกสามแห่งได้ทำการแจ้งความผ่านทางกรมตำรวจประเทศญี่ปุ่นในช่วงฤดูร้อน จนถึงช่วง ฤดูใบไม้ร่วงปี 2017
ทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้ยื่นคำขออย่างเป็นทางการให้กับทางผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตในประเทศญี่ปุ่นเพื่อทำการบล็อกเว็บไซต์มังงะละเมิดลิขสิทธิ์สามแห่ง รวมถึงเว็บ Mangamura ในเดือนเมษายน ปี 2019 ก่อนที่เว็บ Mangamura จะไม่สามารถเข้าใช้งานได้ในวันที่ 17 เมษายน 2018 อย่างไรก็ตามทางหนังสือพิมพ์ Ashahi Shimbun ได้ออกรายงานว่าเว็บไซต์ดังกล่าวไม่ได้ปิดตัวลงเนื่องจากการถูกบล็อกจากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต แต่ผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ตัดสินใจปิดให้บริการเว็บไซต์ Mangamura ด้วยตัวเอง ทาง Asahi Shimbun ยังรายงานด้วยว่าเซิร์ฟเวอร์แยกที่ทางเว็บไซต์ดังกล่าวใช้บันทึกรูปภาพไว้ก็ปิดการให้บริการเช่นกัน ตามแหล่งข่าวของทางหนังสือพิมพ์ระบุว่าการปิดตัวในลักษณะนี้ไม่สามารถทำได้นอกจากผู้ที่เป็นแอดมินของตัวเว็บไซต์
คุณ Hosino Romi พักอาศัยอยู่ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ในช่วงปี 2019 ก่อนที่ทาง สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของฟิลิปปินส์จะเข้าทำการควบคุมตัวของ คุณ Hoshino เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2019 หลังจากนั้นตำรวจจังหวัดฟุกุโอกะร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ได้ทำการจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ Mangamura ประกอบไปด้วย คุณ Adachi Wataru ในช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2019 และมีการจับกุม คุณ Fujisaki Kouta ชายวัย 26 ปี และ คุณ Itou Shiho หญิงวัย 24 ปี ทั้งสองคนถูกระบุว่าเป็นเพื่อนของคุณ Hoshino ต่อมาคุณ Fujisaki ได้ยอมรับข้อกล่าวหา ส่วนคุณ Itou ยืนยันว่าเธอเป็นผู้บริสุทธิ์ ก่อนจะทำการดำเนินการทางศาลเป็นการต่อไป อย่างไรก็ตามยังไม่มีการระบุว่าบุคคลอื่นๆ ถูกตัดสินคดีไปในทางใด
สมาคมจำหน่ายเนื้อหาออกต่างประเทศ (Content Overseas Distribution Association หรือ CODA) ได้รายงานกับทางรัฐบาลว่า ในช่วงเดือนกันยายนปี 2017 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2018 ทางเว็บ Mangamura มีผู้เข้าชมกว่า 620 ล้านครั้ง และทำให้ประเทศญี่ปุ่นเสียหายจากการละเมิดลิขสิทธิ์เป็นมูลค่ากว่า 319,200,000 ล้านเยน
Source: The Asahi Shimbun (Hidemasa Yoshizawa, Tatsuya Sudo)
Leave a Reply