เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นิตยสาร Weekly Shounen Jump ของสำนักพิมพ์ Shueisha ฉบับควบที่ 21 และ 22 ได้ทำการเปิดเผยรายชื่อนักพากย์และทีมงานที่มีส่วนร่วมในการสร้าง Muhyo to Roji no Mahōritsu Sōdan Jimusho (แปลไทย – สำนักงานสืบสวนเรื่องลี้ลับของ Muhyo และ Roji) ผลงานอนิเมะที่ดัดแปลงมาจากมังงะของอาจารย์ Yoshiyuki Nishi
รายชื่อนักพากย์ที่ประกาศมีดังต่อไปนี้:
Tetsuya Kakihara พากย์เป็น Yōichi Himukai
Hiroshi Kamiya พากย์เป็น Soratsugu Madoka
รายชื่อทีมงานผู้สร้างมีดังต่อไปนี้:
- ผู้กำกับ: คุณ Nobuhiro Kondo (ผลงาน – Nobunagun, Cerberus) โดยกำกับให้แก่สตูดิโอ DEEN
- ผู้ประพันธ์บท: คุณ Yasuyuki Suzuki (ผลงาน – Naruto Shippūden, The Reflection)
- ผู้ออกแบบตัวละคร: คุณ Kouichiro Kawano (ผลงาน – And Yet the Town Moves,ผู้กำกับอนิเมชั่นประจำตอนให้แก่ High School Fleet)
- หัวหน้าผู้กำกับอนิเมชั่น: คู่สามีภรรยา คุณ Kazuko Tadano และคุณ Hiromi Matsushita (ผลงาน Sailor Moon, Dancougar – Super Beast Machine God)
- ผู้ประพันธ์ดนตรี: คุณ Ryo Kawasaki (ผลงาน – Fate/Grand Order: First Order, Altair: A Record of Battles)
เว็บไซต์ทางการของอนิเมะได้ทำการสตรีมตัวอย่างอนิเมะเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
โดยอนิเมะเรื่องดังกล่าวจะเริ่มฉายทางช่อง SkyPerfecTV และ Animax ในช่วงฤดูร้อนปีนี้
มังงะ Muhyo to Roji no Mahōritsu Sōdan Jimusho เป็นเรื่องราวการสืบสวนคดีเหนือธรรมชาติของ Toru Muhyo อัจฉริยะทางกฎหมายเวทย์มนตร์ และ Jiro Kusano ผู้ช่วยของเขา
มังงะ Muhyo to Roji no Mahōritsu Sōdan Jimusho ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร Weekly Shonen Jump ของ Shueisha ตั้งแต่ปี 2004 จนถึงปี 2008 โดยทาง Shueisha ได้ตีพิมพ์มังงะฉบับรวมเล่มทั้งในรูปแบบปกติจำนวน 18 เล่ม และในรูปแบบปกอ่อนจำนวน 10 เล่ม และมี Viz Media เป็นผู้จัดจำหน่ายมังงะฉบับรวมเล่มทั้ง 18 เล่มทั้งในรูปแบบหนังสือและแบบดิจิตอลในฝั่งอเมริกาเหนือ
A sequel manga launched on Shueisha’s Shonen Jump+ manga website and app on March 19. The sequel follows Muhyo and his friends after they have grown a little after the conclusion of the first series.
ภาคต่อของมังงะเรื่องดังกล่าวได้เริ่มเผยแพร่ ผ่านทางเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น Shounen Jump+ ของ Shueisha เมื่อวันที่ 19 มีนาคม โดยเนื้อเรื่องของภาคต่อนั้นจะเป็นเหตุการณ์ในช่วงที่ทั้งคู่เติบโตขึ้นมาจากบทสรุปของภาคแรกเล็กน้อย