เนื้อเรื่องของอนิเมชั่นฉบับนี้จะตามพลอทเรื่องของ “สมาชิกผู้เหลือรอดเป็นคนสุดท้ายของตระกูลเบลมอนท์ผู้เสื่อมเสีย และพยายามที่จะช่วยเหลือยุโรปตะวันออกให้รอดพ้นจากการล้างเผ่าพันธุ์ด้วยน้ำมือของ วลาด แดรกคูลา เทเป
โปรดิวเซอร์ Adi Shankar ประกาศมาตั้งแต่ปี 2015 ว่าเขากำลังทำงานร่วมกับ Fred Seibert และ Kevin Kolde จากสตูดิโออนิเมชั่น Frederator Studios ในการทำอนิเมชั่นแบบมินิซีรี่ส์ที่อิงมาจากเกม Castlevania ของบริษัทเกม Konami ซึ่งจะใช้เนื้อเรื่องจากเกม Castlevania III: Dracula’s Curse (ฉบับญี่ปุ่นใช้ชื่อ Akumajo Densetsu อันเป็นภาคแรกที่ผู้เล่นสามารถสลับเป็นตัวละครอื่น และเป็นภาคแรกที่ตัวละคร Alucard ปรากฎตัว) ที่เคยลงบนเครื่อง Famicom ในปี 1989 เกมภาคนี้มีท้องเรื่องอยู่ในปี 1476 และเคาท์แดรกคูลาได้ยึดครองทวีปยุโปรไว้ในกำมือแล้ว Trevor Belmont จึงออกเดินทางเพื่อปราบแดรกคูลา และได้ร่มมือกับแม่มด Sypha Belnades, โจรสลัด Grant Danasty และ ลูกครึ่งแวมไพร์ผู้เป็นลูกชายของแดรกคูลา Alucard
เนื้อเรื่องของอนิเมชั่นฉบับนี้จะตามพลอทเรื่องของ “สมาชิกผู้เหลือรอดเป็นคนสุดท้ายของตระกูลเบลมอนท์ผู้เสื่อมเสีย และพยายามที่จะช่วยเหลือยุโรปตะวันออกให้รอดพ้นจากการล้างเผ่าพันธุ์ด้วยน้ำมือของ วลาด แดรกคูลา เทเป
โปรดิวเซอร์ Adi Shankar ประกาศมาตั้งแต่ปี 2015 ว่าเขากำลังทำงานร่วมกับ Fred Seibert และ Kevin Kolde จากสตูดิโออนิเมชั่น Frederator Studios ในการทำอนิเมชั่นแบบมินิซีรี่ส์ที่อิงมาจากเกม Castlevania ของบริษัทเกม Konami ซึ่งจะใช้เนื้อเรื่องจากเกม Castlevania III: Dracula’s Curse (ฉบับญี่ปุ่นใช้ชื่อ Akumajo Densetsu อันเป็นภาคแรกที่ผู้เล่นสามารถสลับเป็นตัวละครอื่น และเป็นภาคแรกที่ตัวละคร Alucard ปรากฎตัว) ที่เคยลงบนเครื่อง Famicom ในปี 1989 เกมภาคนี้มีท้องเรื่องอยู่ในปี 1476 และเคาท์แดรกคูลาได้ยึดครองทวีปยุโปรไว้ในกำมือแล้ว Trevor Belmont จึงออกเดินทางเพื่อปราบแดรกคูลา และได้ร่มมือกับแม่มด Sypha Belnades, โจรสลัด Grant Danasty และ ลูกครึ่งแวมไพร์ผู้เป็นลูกชายของแดรกคูลา Alucard
[Via Gematsu]