อาจารย์ Watase Yuu ได้อัพเดทรายละเอียดในทวิตเตอร์ของตัวเธอเองว่า ‘กำลังเตรียมการเขียน อาราตะ ตำนานเทพแห่งดาบ’ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม ปี 2020 หลังจากที่มังงะดังกล่าวหยุดตีพิมพ์มาแล้ว 5 ปี โดยการตีพิมพ์ตอนล่าสุดนั้นอยู่ในช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2015 (หลังจากที่หยุดเขียนมาแล้ว 17 เดือน) ก่อนจะหยุดเขียนต่อเนื่องมานับแต่บัดนั้น
ก่อนหน้านี้อาจารย์ Watase Yuu เคยทวิตไว้เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2019 ว่าอาจารย์เริ่มวางแผนที่จะทำการเดินเรื่ององก์ต่อไปจากมังงะฉบับรีมาสเตอร์เล่มที่ 14 ก่อนหน้านั้นอาจารย์ Watase ทวิตว่าตั้งใจจะเขียนมังงะต่อในปี 2018 ก่อนจะมีการเสริมขึ้นมาว่าอาจารย์ยังคงรักษาตัวจากโรคซึ้มเศร้าอยู่
อาจารย์ Watase ยังทำการวาดมังงะ อาราตะ ตำนานเทพแห่งดาบฉบับรีมาสเตอร์ (อาจารย์ Watase ได้ทำการ ‘รีมาสเตอร์’ อาราตะ ตำนานเทพแห่งดาบ โดยในฉบับรีมาสเตอร์มีการตีพิมพ์ออกมาเป็นรูปเล่มที่ใหญ่ขึ้น เปลี่ยนโครงสร้างเรื่องบางส่วนให้เข้าใจง่ายขึ้น รวมถึงมีการเขียนแก้ภาพให้ชัดเจนมากขึ้นทั้งด้านอารมร์และการบอกเล่า โดยตัวมังงะฉบับรีมาสเตอร์ 1 เล่ม จะมีเนื้อหาเท่ากับฉบับปกติ 2 เล่ม) และวางจำหน่ายรวมเล่มของรีมาสเตอร์ฉบับที่ 12 ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2020 ส่วนตัวมังงะฉบับปกติวางจำหน่ายรวมเล่มฉบับมที่ 25 ไปเมื่อปี 2015
ผลงานล่าสุดของอาจารย์ Watase คือมังงะ FushigiYugi: Byakko Senki ที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร Flowers รายเดือนของทาง Shogakukan มาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2017 แต่นิตยสารดังกล่าวเป็นนิตยสารที่วางจำหน่ายแบบเดือนเว้นเดือน ซึ่งทาง Shogakukan วางจำหน่ายรวมเล่มฉบับที่ 1 ของมังงะเรื่องดังกล่าวไปในช่วงเดือนเมษายน ปี 2018
ทาง บงกช ที่เป็นผู้จัดทำมังงะ อาราตะ ตำนานเทพแห่งดาบ ฉบับภาษาไทยได้ลงรายละเอียดเรื่องย่อไว้ดังนี้:
ในโลกแห่งตำนานเทพที่มีเหล่าเทพมากมายมีชีวิตอยู่ร่วมกับมนุษย์ ในช่วงที่มีพิธีเข้ารับตำแหน่งของราชินีองค์ใหม่ที่จะมาปกครองประเทศ หลังจากที่ไม่ได้มีพิธีมานานกว่า 60 ปี แต่เพราะในตระกูลเจ้าหญิงไม่มีเด็กผู้หญิง ทำให้อาราตะซึ่งเป็นผู้ชายต้องปลอมตัวเป็นผู้หญิงเข้าร่วมพิธี…. ในขณะเดียวกัน ณ โลกปัจจุบัน ฮิโนฮาระ อาราตะ นักเรียนไฮสคูลปี 1 พยายามจะลืม อดีตที่เจ็บปวด และเริ่มต้นชีวิตนักเรียนไฮสคูลใหม่ แต่ว่า….!? พบกับเรื่องราวแฟนตาซีในโลกที่วาดขึ้นมาด้วยมุมมองที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว!!
งงะเรื่องดังกล่าวเคยถูกสร้างเป็นอนิเมะจำนวน 12 ตอน ออกฉายในช่วงปี 2013
Source: Yuu Watase’s Twitter account
Leave a Reply