เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทางมงคลภาพยนตร์ได้มีการจัดฉายภาพยนตร์เรื่อง Shin Godzilla รอบสื่อมวลชนที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิร์ล ในรูปแบบโรงภาพยนตร์ MX4D ก่อนเข้าฉายจริงวันที่ 8 กันยายนนี้
“ แท้จริงแล้วสิ่งที่ชวนหวาดหวั่น สุดแสนน่าสะพรึงที่ตามหลอกหลอน
และกำลังจะเกิดขึ้นกับพวกเราทั้งหมดทั้งมวลนั้น
ล้วนแล้วอาจคือสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวตนของเราต่างหาก
ที่ในท้ายที่สุดเราควรตระหนักและหวาดกลัว”
มาทำความรู้จักกับก็อตซิลล่ากันก่อน
ก็อตซิลล่า หรือ โกจิร่า ออกฉายครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ปี พ.ศ.2497 และได้เข้าฉายที่ประเทศอเมริกาในปี พ.ศ.2499
เป็นไคจู(สัตว์ประหลาด) ซึ่งเกิดขึ้นภายใต้ไอเดีย และความคิดสร้างสรรค์ของ โทโมยูกิ ทานากะ ในระหว่างที่เดินทางกลับญี่ปุ่น ขณะที่เครื่องบินบินอยู่เหนือน่านน้ำพลันเกิดความคิดที่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าหากมีอสูรกายใหญ่ยักษ์ถูกปลุกขึ้นมาจากอานุภาพของรังสีนิวเคลียร์ แล้วบุกถล่มประเทศญี่ปุ่น ขึ้นฝั่งเหยียบย่างทำลายบ้านเรือนผู้คนรอบๆอ่าวโตเกียว โดยทั้งนี้ประกอบกับการได้รับแรงบันดาลใจจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเรือประมงที่ชื่อว่า Lucky Dragon No.5 ซึ่งบังเอิญหลุดเข้าไปจับปลาในแถบเกาะปะการังบิกีนีที่ซึ่งเป็นเขตที่มีการทดลองระเบิดนิวเคลียร์
ตลอดเวลา 60 กว่าปีที่ผ่านมา ก็อตซิลล่าถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์หลายต่อหลายครั้ง และมีอยู่บ่อยมากที่ก็อตซิลล่าเป็นฝ่ายปกป้องมนุษย์จากการรุกรานของไคจูตัวอื่นๆ ซึ่งคนยุคหลังมาจะติดภาพลักษณ์ของก็อตซิลล่าในรูปแบบนั้นเสียมากกว่า
เอาล่ะ มาว่ากันด้วยเรื่องของ SHIN GODZILLA (ชิน ก็อดซิลล่า) ในปัจจุบันของปี 2016 กันบ้าง
การออกแบบ
ทั้ง 2 ผู้กำกับ ฮิเดอากิ อันโนะ และ ชินจิ ฮิงูจิ เลือกที่จะนำเสนอก็อดซิลล่าฉบับปี 2016 ด้วยความมหึมหาใหญ่โตอย่างถึงขีดสุดที่ความสูง 118.5 เมตร (389ฟุต) ลบสถิติก็อดซิลล่าทุกตัวที่เคยปรากฎตัวและย่ำบนจอภาพยนตร์ เรียกได้ว่าแซงหน้าความใหญ่ยักษ์ของฉบับฮอลลีวู้ดเวอร์ชั่นก่อนหน้าในปี 2014 ที่มีความสูง 108 เมตร (354ฟุต)
โดยความตั้งใจของคุณอันโนะก็คือ อยากทำความเคารพก็อดซิลล่าตัวแรกเมื่อปี 1954 นอกจากนั้นเรายังต้องคงคอนเซ็ปต์ที่ว่า ก็อดซิลล่าคือ สัตว์ยักษ์ที่สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนไปทั่ว ดังนั้นเราจึงได้เห็นก็อตซิลล่าในรูปแบบที่แปลกตาไปกว่าตัวก่อนๆ เป็นเพราะว่าทางทีมงานได้ทำการออกแบบใหม่หมดทีละส่วนเลยทีเดียว ซึ่งเหตุผลที่ก็อตซิลล่ามีรูปร่างเป็นแบบนี้ ไม่เท่ ไม่เก๋กู๊ดเหมือนรุ่นก่อนๆ จะมีอธิบายอยู่ในเนื้อเรื่องครับ
เนื้อเรื่องย่อ
เกิดอุบัติเหตุขึ้นในอุโมงค์ใต้น้ำเส้นทางผ่านอ่าวโตเกียวโดยไม่รู้สาเหตุ ส่งผลให้เกิดการรวมตัวกันของหลากหลายหน่วยงานของภาครัฐบาลญี่ปุ่นเกิดมติประชุมฉุกเฉิน เพื่อรับมือกับสถานการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้น แต่กลับพบว่ามันคืออสูรกายขนาดยักษ์ที่มีความสูงถึง 118.5 เมตร ที่ปรากฏตัวบุกขึ้นฝั่งสร้างความโกลาหลวุ่นวาย แล้วเข้าทำลายบ้านเมืองอย่างย่อยยับจากนอกเมืองไล่เข้าสู่ใจกลางเมืองหลวงจนเกิดความเสียหายไปทั่ว
กล่าวได้ว่า นี่คือมหันตภัยครั้งร้ายแรงที่นำมาซึ่งความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดแก่ผู้คนและประเทศญี่ปุ่นเกินกว่าที่ใครจะคาดเดา รัฐบาลญี่ปุ่นต้องลุกขึ้นต่อสู้ เพื่อปกป้องประเทศให้รอดพ้นจากหายนะครั้งยิ่งใหญ่จากสิ่งมีชีวิตปริศนาขนาดมหึมาที่ถูกขนานนามว่า “ก็อดซิลล่า”
รูปแบบการนำเสนอ
สิ่งที่ผู้ชมต้องทำความเข้าใจก่อนที่จะดูหนังเรื่องนี้เลยก็คือ เรื่องนี้เป็นการรีบูทเนื้อเรื่องของก็อตซิลล่าใหม่หมด โดยเป็นการย้อนกลับไปสู่การที่มนุษย์ได้สัมผัสกับสัตว์ประหลาดตัวนี้เป็นครั้งแรก ก็อตซิลล่าจะกลับมาอาละวาดเป็นศัตรูกับมนุษย์อีกครั้ง โดยมีการใช้สภาพแวดล้อมและรูปแบบสังคมดิจิตอลที่เข้ากับสมัยใหม่ยิ่งขึ้น เนื้อหากว่า 65-70% ของเรื่อง จึงจะมุ่งเน้นไปที่ความกดดันจากการรับมือกับสถานการณ์โดยรัฐบาลญี่ปุ่น ในการประชุมวางแผนหาทางตอบโต้กับก็อตซิลล่าในแบบที่มนุษย์ในยุคปัจจุบันจะสามารถทำได้
เราจะได้เห็นการจิกกัดระบบการทำงานของรัฐบาลญี่ปุ่นแบบแสบๆ คันๆ มากมาย และยังมีประโยคประชดประชันเหล่านักวิจารณ์ก็อตซิลล่าในสมัยก่อน ผ่านตัวละครในเรื่องให้เห็นเป็นครั้งคราว แต่ก็ยังมีการนำเสนอให้เห็นประเทศญี่ปุ่นในแง่ของความมีน้ำหนึ่งใจเดียว ในการร่วมกันมุ่งเน้นแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าต่างๆ ได้ดีมาก รวมถึงการสอดแทรกมุกบ้างให้ช่วยคลายความตึงเครียดของเนื้อหาได้บ้าง
นอกจากนี้ผู้กำกับอันโนะยังแอบสอดแทรกบรรยากาศของผลงานเก่าอย่าง Evangelion เข้ามาในเรื่องนี้ด้วย ซึ่งตัวผู้เขียนเองก็เป็นผู้ที่ชื่นชอบผลงานเรื่องนั้นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยทำให้สัมผัสในสิ่งที่ผู้กำกับอันโนะต้องการจะสื่อได้ แต่ถึงไม่เคยติดตามผลงานเรื่องนั้นมาก่อนก็ไม่เป็นไร เพราะหนังเรื่องก็อตซิลล่านี้มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองอยู่แล้ว
MX4D ต่างกับรับชมปกติอย่างไร?
สำหรับประเทศไทยนั้น ระบบภาพยนตร์ MX4D ถือเป็นอะไรที่ใหม่มากๆ และผู้เขียนเองก็เพิ่งได้สัมผัสกับประสบการณ์โรงภาพยนตร์แบบนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งในระบบ MX4D นี้เราจะได้รับประสบการณ์ที่สมจริงยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแรงสั่นสะเทือนจากเก้าอี้นั่งเวลาก็อตซิลล่าก้าวเดินแต่ละครั้ง รวมไปถึงฉากความพังพินาศของเมือง, ฉากนั่งยานพาหนะที่เก้าอี้จะไหวเอนไปตามตัวหนัง และยังมีแรงลมที่ปะทะหน้าในหลายๆ เหตุการณ์ไม่ว่าจะเป็นลมแบบใบพัดเฮลิคอปเตอร์, หรือแม้แต่ลมที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของวัตถุ รวมไปถึงควัน, กลิ่นของคาร์บอน หรือกำมะถัน และแม้แต่จังหวะที่เกี่ยวกับน้ำ ก็ยังมีน้ำกระเซ็นใส่ให้เปียกปอนกันด้วย
กราฟิก
ด้วยระบบคอมพิวเตอร์กราฟิกที่สมจริงยิ่งขึ้นในยุคปัจจุบัน ทำให้สามารถใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกสร้างโมเดลก็อตซิลล่าขึ้นมาใหม่ให้สมจริงได้โดยไม่จำเป็นต้องใส่ชุดยางแสดงอีกต่อไป รวมไปถึงเอฟเฟค “Atomic Breath” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของก็อตซิลล่าก็ทำออกมาได้ละเอียดเป็นขั้นเป็นตอน ดูทรงพลังและมีแรงทำลายล้างสูงมากกว่าที่เคยดูมาอีกด้วย
ข้อเสีย
สิ่งที่ผมเห็นเป็นข้อเสียจากภาพยนตร์เรื่องนี้คือตัวละครที่หนังพยายามยัดให้ผู้ชมรู้จักเยอะมาก เยอะจนจำไม่ได้เลยว่าใครเป็นใคร ตำแหน่งอะไร หน่วยงานใด ถึงแม้จะมีเขียนบรรยายกำกับไว้แล้วก็ตาม แต่ถ้าดูภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยเสียงภาษาญี่ปุ่นพร้อมคำบรรยายไทย ยังไงก็อ่านชื่อไม่ทันแน่นอน แนะนำให้จำหน้าตาของตัวละครแทนชื่อ จะช่วยให้ตามเนื้อเรื่องได้ทันกว่า
นอกเหนือจากนี้ก็คือสไตล์การเล่าเรื่องในแบบของ ผู้กำกับฮิเดอากิ อันโนะ ที่ผู้ชมจำเป็นต้องคิดวิเคราะห์ตามคำบอกใบ้ที่สอดแทรกมาในหนังไปด้วย ซึ่งก็ไม่ได้โหดร้ายกับผู้ชมเหมือนผลงานเก่าๆ อย่าง Evangelion นัก แต่ถ้าผู้ชมคนไหนที่คุ้นชินกับผลงานของเขาอยู่แล้วก็คงไม่ติดปัญหาอะไร
สรุป
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแนวรับมือกับภัยพิบัติ ที่มีเนื้อหาเยอะและมีความเป็นดราม่าการเมืองสูง หากผู้อ่านตั้งใจจะพาบุตรหลานไปดูก็อตซิลล่า เพราะคิดว่าจะเหมือนหนังปราบสัตว์ประหลาดมันส์ๆ ก็ขอให้ล้มเลิกความคิดนี้ไปได้เลย เพราะตัวหนังเน้นเรื่องนี้น้อยมากจริงๆ
ส่วนความสนุกของหนังเรื่องนี้คือการที่เราได้เห็นการดิ้นรนของมนุษย์ที่วางแผนรับมือภัยพิบัติในรูปแบบของก็อตซิลล่า กับดราม่าการยกทฤษฐีข่มกันเองภายในภาครัฐ, มีลำดับความซับซ้อนของการทำงานในภาครัฐบาลของประเทศญี่ปุ่น โดยมีก็อตซิลล่าเป็นศูนย์กลางของประเด็นทั้งหมดอีกที
ระดับความคุ้มค่าของการเข้าชมแบบ MX4D นั้นผู้เขียนมองว่าเป็นเรื่องที่เน้นบทสนาซะเป็นส่วนใหญ่ ทำให้มีการเล่นระบบต่างๆของ MX4D ได้ไม่บ่อยมากนัก แต่ตัวหนังเองก็พยายามยัดลูกเล่นต่างๆ ให้อย่างเต็มที่แล้วเช่นกัน (ขนาดภาพตัดไปที่เครื่องบินแค่ 2 วินาทีก็ยังจะสั่นเก้าอี้ให้) แต่ถ้ามองในแง่ของความรู้สึกสมจริงของการได้เข้าชมก็อตซิลล่านั้นนับว่าเต็มเม็ดเต็มหน่วยมาก
สุดท้ายนี้ ผู้เขียนอยากแนะนำให้ผู้อ่านตั้งคำถามกับตัวเองก่อนว่าอยากดูก็อตซิลล่าในรูปแบบไหน หากต้องการรูปแบบบู๊แอคชั่นสนุกๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่สามารถตอบโจทย์ในส่วนนั้นได้ แต่หากต้องการชมความกดดันของก็อตซิลล่าแบบคลาสสิก และต้องการชมหนังแนวรับมือกับภัยพิบัติอย่างนึงแบบสมจริง ภาพยนตร์ Shin Godzilla เรื่องนี้ก็ทำออกมาได้ดีมากๆ
ก็ถือเป็นการกลับมาทวงตำแหน่ง “God” ของก็อดซิลล่าต้นฉบับที่ผู้คนต้องเกรงกลัวได้อย่างสมศักดิ์ศรี และสมกับที่รอคอยมานานจริงๆ
ขอขอบคุณ มงคลภาพยนตร์ ผู้ให้การสนับสนุน
รีวิวโดย ทีมข่าว DexNews
ทิ้งท้ายกับภาพบรรยากาศในงานฉายรอบสื่อมวลชนครับ