ทีมงานของ Sunao Katabuchi เจ้าของผลงานภาพยนตร์อนิเมะ In This Corner of the World เปิดแคมเปญระดมทุนเพื่อส่งให้คุณ Katabuchi ได้ไปร่วมงานฉายภาพยนตร์ในต่างประเทศ และเขาหวังว่าการนำภาพยนตร์ไปฉายในต่างประเทศจะทำให้เขาได้รับรู้ความรู้สึกจากคนประเทศต่างๆ เมื่อได้รู้เรื่องราวของประเทศญี่ปุ่น ที่ถูกโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อนำมาเปรียบเทียบและหาความแตกต่างกับความรู้สึกของคนญี่ปุ่นและเก็บมาใช้ศึกษา แคมเปญนี้มีเป้าหมายที่ 10,800,000 เยน (ประมาณ 3,4 ล้านบาท) และสามารถถึงเป้าหมายที่วางไว้ตั้งแต่วันแรก ในขณะที่เขียนข่าวนี้ยอดระดมทุนคือ 18,511,200 เยน (ประมาณ 5.8 ล้านบาท)
ผู้สนับสนุนจะได้รับของตอบแทนเป็นบันทึกที่เขียนโดย Katabuchi เกี่ยวกับประสบการณ์ของเขาในการฉายภาพยนตร์ในต่างประเทศ, ร่วมงานประชุมและอีเวนต์เกี่ยวกับการฉายภาพยนตร์ในต่างประเทศ
ก่อนหน้านี้ภายนตร์เรื่องนี้ก็ได้รับการสนับสนุนเป็นเงิน 36,244,000 เยน (ประมาณ 11 ล้านบาท) จากผู้สนับสนุน 3,374 คน ผ่านทางแคมเปญระดมทุนเมื่อปีที่แล้วด้วย
ภาพยนตร์ได้เปิดตัวในโรงภายนตร์ประเทศญี่ปุ่นจำนวน 63 แห่ง เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และขายตั๋วได้แล้วถึง 32,032 ใบซึ่งเป็นรายได้รวม 47,042,090 เยน (ประมาณ 14 ล้านบาท) และติดอันดับที่ 10 ในบ็อกซ์ออฟฟิศของญี่ปุ่นในสุดสัปดาห์ที่เปิดตัว และยังชนะรางวัล Hiroshima Peace Film Award ที่งาน Hiroshima International Film Festival อีกด้วย ภาพยนตร์เรื่องนี้ตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะสามารถกวาดรายได้ถึง 500 ล้านเยน (ประมาณ 150 ล้านบาท)
ทุกรอบฉายในโรงภาพยนตร์ Theatre Shinjuku, Theatre Umeda และ Cine Libre Umeda ถูกขายจนหมดเกลี้ยงตั้งแต่วันแรก และโรงภาพยนตร์ที่อื่นๆ ก็ขายตั๋วหมดในวันที่สองด้วย
ภาพยนตร์เรื่องนี้มีกำหนดฉายใน 14 ประเทศโดยเริ่มที่ประเทศอังกฤษ, ฝรั่งเศส, และอเมริกาใต้ จากนั้นจะฉายที่เยอรมัน, เม็กซิโก และประเทศอื่นๆ รวมถึงไทยด้วย
ภายนตร์เรื่องนี้อ้างอิงมาจากมังงะเรื่อง Kono Sekai no Katasumi ni ซึ่งเขียนโดย Fumiyo Kono ได้กล่าวถึงตัวละคร ที่ชื่อว่า Suzu Urano ที่ได้ย้ายมาใช้ชีวิตใหม่ในเมือง Kure บริเวณริมทะเลจังหวัดฮิโรชิมะ เธอต้องอดทนฝ่าฟันในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยความกล้าหาญและมุ่งมั่นไปให้ได้
รายชื่อทีมงาน
- ผู้กำกับและเขียนบท
Sunao Katabuchi เขาได้เคยประกาศสร้างภาพยนตร์เชิงสารคดีเรื่องนี้ไว้เมื่อปี 2012
(ผลงานที่ผ่านมา Mai Mai Miracle, Black Lagoon) - ผู้ช่วยผู้กำกับและดูแลองค์ประกอบของภาพยนตร์
Chie Uratani
(ผลงานที่ผ่านมา Black Lagoon: Roberta’s Blood Trail, Mai Mai Miracle และผู้กำกับอนิเมชั่นเรื่อง Tekkonkinkreet ) - ออกแบบตัวละครและผู้กำกับภาพเคลื่อนไหว
Hidenori Matsubara
(ผลงานที่ผ่านมา Oh My Goddess!,Sakura Wars, King of Thorn) - ดูแลงานเพลง
Kotringo
(ผลงานที่ผ่านมา Bears’ School,Gourmet Girl Graffiti) - โปรดิวเซอร์
Taro Maki จากสตูดิโอ GENCO - วางแผนงาน
Masao Maruyama ผู้ก่อตั้งและโปรดิวเซอร์สตูดิโอ MAPPA - จำหน่ายภาพยนตร์
Tokyo Theatres Company
ภาพยนตร์เคยฉายที่ Annecy ในงานประชุม Work in Progress เมื่อเดือนมิถุนายน และทาง Animatsu Entertainment ได้สิทธิ์ในการฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ทั่วโลก
มังงะเรื่องนี้ยังเคยชนะรางวัล Excellence Prize ในงาน 13th Japan Media Arts Festival และยังเป็นแรงบันดาลใจในการทำละครทีวีฉบับคนแสดงตอนพิเศษซึ่งได้ Keiko Kitagawa มารับบทเป็น Suzu Urano ในปี 2011 (เคยแสดงเป็น Sailor Mars ในเรื่อง Sailor Moon ฉบับคนแสดง, Paradise Kiss)
[ที่มา Hachima Kikō]
