Ghibli Museum พิพิธภัณฑ์ที่เปิดอุทิศให้กับผลงานอนิเมะจาก Studio Ghibli ได้เปิดระดมเงินทุนผ่านทาง Furusato Choice และทำยอดระดมทุนทะลุ 10 ล้านเยน ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง เมื่อวันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม ปี 2021 ณ วันที่เขียนข่าวนี้ การระดมทุนทำยอดได้ 21,912,735 เยน จากยอดผู้ระดมทุน 2,808 คน
การระดมทุนครั้งนี้ดำเนินการโดยทางเมืองมิทากะ ตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และเปิดให้ระดมทุนจนถึงวันที่ 31 มกราคม ปี 2022 การระดมทุนเปิดให้เฉพาะผู้อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นและไม่เปิดให้ชาวต่างชาติร่วมระดมทุน ตัวการระดมทุนดังกล่าวยังระบุขอให้ผู้ร่วมระดมทุน ลงเงินอย่างน้อย 5,000 เยน และบริการของทาง Furusato Choice ยังอนุญาตให้ผู้คนบริจาคเงินให้ธุรกิจท้องถิ่นและใช้เงินบริจาคดังกล่าวในการหักภาษีได้
ตัวพิพิธภัณฑ์ Ghibli Museum แถลงผ่านเว็บไซต์เกี่ยวกับการระดมทุนครั้งนี้เนื่องจากยอดรายได้จากการขายตั๋วลดลงอย่างมากเนื่องจากการแพร่กระจายขอไวรัสโควิด 19 จึงทำให้มีการขาดเงินทุนอย่างมาก ทางแคมเปญของ Furusato Choice ระบุว่าได้รับอนุญาตจากทางเมืองมิทากะในการเปิดระดมทุน และทุนดังกล่าวจะไม่ครอบคลุมถึงเงินค่าบำรุงและซ่อมแซมสถานที่จำนวนมหาศาลแต่อย่างใด
Ghibli Musuem ปิดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน ปี 2021 จนถึงช่วงต้นเดือนมิถุนายนปี 2021 ตามคำสั่งสถานการณ์ฉุกเฉินครั้งที่สาม ในกรุงโตเกียวและจังหวัดอื่นๆ ในปประเทศญี่ปุ่น ก่อนหน้านี้ Ghibli Musuem เคยปิดให้บริการช่วงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ปี 2020 จนถึงเดือนกรกฎาคม ปี 2020 ตามคำสั่งสถานการณ์ฉุกเฉินครั้งที่หนึ่ง
พิพิธภัณฑ์ Ghibli Museum ตั้งอยู่ในเมืองมิทากะ ที่อยู่ทางด้านตะวันตกของกรุงโตเกียว เปิดตัวครั้งแรกช่วงเดือนตุลาคม ปี 2021 ที่ทำการจัดแสดงนิทรรศการแบบอินเตอร์แอคทีฟที่เกี่ยวข้องกับผลงานของ Studio Ghibli พร้อมกับของจำลองตัสละครหรือฉากสำคัญจากผลงานของ Studio Ghibli อาท รถบัสแมว จากภาพยนตร์ My Neighbour Totoro โทโทโร่เพื่อนรัก, หุ่นยนต์ จากภาพยนตร์ Laputa: Castle In The Sky ลาพิวต้า พลิกตำนานเหนือเวหา, ภายในพิพิธภัณฑ์ยังทำการฉายภาพยนตร์สั้นหมุนเวียนกันไป นอกจากนั้นยังมีการแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับผลงานที่ได้รับอิทธิพลมาจาก คุณ Miyazaki Hayao การซื้อตัวเข้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะต้องทำการจองตั๋วล่วงหน้าและมีการจำหน่ายตั๋วแบบจำกัดจำนวนในการเข้าชมแต่ละวัน
Sources: The Ghibli Museum’s Furusato Choice page, CNET (Ty Pendlebury), BoingBoing (Mark Frauenfelder)
Leave a Reply