เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ออนไลน์ Tokyo Keizai ได้ตีพิมพ์บทความเมื่อวันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน ปี 2020 ที่เป็นการวิเคราะห์และตรวจสอบว่าทาง Netflix ลงทุนในอุตสาหกรรมอนิเมะในประเทศญี่ปุุ่นอย่างไร ด้วยการไปสัมภาษณ์กับบุคลากรในอุตสาหกรรมอนิเมะที่ทำงานด้านการตลาดหรือการผลิตอนิเมะให้กับทาง Netflix โดยตรง ในบทความดังกลาวมีไฮไลท์เกี่ยวกับการซื้อสิทธิ์ล่วงหน้าของทาง Netflix
ฝ่ายการจัดการของบริษัทผู้ผลิตอนิเมะแห่งหนึงที่ผลิตงานให้ทาง Netflix ได้ให้ความเห็นว่า ‘ถ้าอนิเมะดัง Netflix เป็นฝ่ายชนะ แต่ถ้าอนิเมะไม่ปัง ถือว่าเรา (บริษัทผู้ผลิตอนิเมะ) เป็นฝ่ายชนะ เพราะสิทธิ์การฉายเปห็นการแบบซื้อขาด ดังนั้นบริษัทผู้ผลิตอนิเมะจะไม่ได้รับรายได้จากค่าสิทธิ์เพิ่มเติมไม่ว่าตัวอนิเมะจะมีผู้ชมจำนวนมากเท่าใดก็ตาม’
อีกปัญหาหนึ่งมาจากการบอกเล่าของฝ่ายการจัดการของบริษัทโฆษณาแห่งหนึ่งที่ระบุว่าทาง Netflix ไม่เคยเปิดเผยตัวเลขยอดผู้ชมให้กับคู่ค้าเลยแม้แต่น้อย เรื่องนี้ทำให้เป็นการยากในการจะเจรจาเพื่อขอรับค่าสิทธิ์เพิ่มเติมในการซื้อสิทธิ์ผลงานเรื่องต่อไป หัวหน้าของบริษัทแห่งหนึ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับรายการอนิเมะชื่อดังได้กล่าเอาไว้ว่า ‘ถ้าเป็นแบบนี้ ก็เหมือนว่าพวกเราจะกลายเป็นผู้รับจ้างช่วงต่อของทาง Netflix’
ทาง Netflix ยังเน้นการซื้อสิทธิ์ฉายออนไลน์เป็นหลัก หมายความจะมีหลายๆ กรณีที่บริษัทผู็ผลิตอนิเมะจะมีปัญหาในการขายสิทธิ์ขยายต่อไปยังฝั่งสินค้า, เกม, แผ่น, และการทำสื่อประเภทอื่นๆ เรื่องนี้ถือว่าเป็นปัญหาสำหรับบริษัทที่ต้องพึ่งพาเฟรนไชส์สื่อผสม ในฐานะรายได้ที่สำคัญแบบหนึ่ง ฝ่ายจัดการของบริษัทผู้ผลิตอนิเมะแห่งหนึ่งได้บ่นเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวว่า ‘เพราะจำนวนของผู้ชมที่รับชมอนิเมะผ่านบริการรับชมสตรีมมิ่งมีจำนวนจำกัด จึงยากมากที่งานพวกนี้จะฮิต’ วงในจากอีกบริษัทหนึ่งระบุว่า ‘เป็นไปได้ยากที่ ดาบพิฆาตอสูร จะกลายเป็นผลงานโคตรฮิตอนิเมะเรื่องดังกล่าวเลือกที่จะฉายออนไลน์อย่างเดียว’
อย่างไรก็ตามบุคลากรวงในหลายคนก็พูดถึงแง่ดีในการที่ Netflix มาลงทุนด้านอนิเมะ อย่างเช่นการติดต่อผู้สร้างอนิเมะในญี่ปุ่นกับศิลปินและผู้มีความสามารถจากพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก, และการรายได้จากค่าสิทธิ์ฉายออนไลน์ก็อยู่ในราคาที่สูง อย่างที่บุคลากรวงในวงการภาพยนตร์ได้กล่าวว่า ‘เป็นบริษัทใหญ่ที่คนรู้กันว่า ยอมจ่ายเงินค่าสิทธิ์ตอนละด้วยราคาตอนละ 50 ถึง 70 ล้านเยน’
อีกด้านหนึ่งก็มีความกลัวว่า มันอาจจะเป็นความผิดพลาดในการพึ่งพาแค่ Netflix เมื่อไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าทาง Netflix จะทำการลงทุนกับอนิเมะไปตลอด ‘คุณภาพการสร้าง(งานอนิเมชั่น)ของต่างประเทศอย่าง จีน และ เกาหลี ก็เพิ่มมากขึ้น ถ้าประเทศเหล่านั้นสามารถทำงานคุณภาพได้เท่ากับเรา พวกเขาก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับข้อเสนอจากทาง Netflix เช่นกัน’ บุคลากรที่คุ้นเคยกับอุตสาหกรรมอนิเมะท่านหนึ่งกล่าว
สำหรับตอนนี้ ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของทาง Netflix กับอุตสาหกรรมอนิเมะยังคงเข้มแข็ง อย่างในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2020 ที่ผ่านมาทาง Netflix ก็ได้ประกาศร่วมมือกับกลุ่มนักเขียนมังงะชื่อดังอย่าง CLAMP, นักแต่งเรื่องมืออาชีพ Kibayashi Shin, อาจารย์ Ohtagaki Yasuo ผู้เขียนมังงะ Moonlight Miles, อาจารย์ Yamazaki Mari ผู้เขียนมังงะ สู้ต่อไปนะลูเซียส, นักเขียนนิยายและผู้กำกับ Otsuichi, นักเขียนนิยาย Ubukata Tow เพื่อร่มกันพัฒนาและผลิตอนิเมะออริจินัลที่จะเปิดฉายในพื้นที่ 190 ประเทศทั่วโลก
Source: Tokyo Keizai
Leave a Reply