จากโฆษณากิจกรรมฤดูร้อนประจำปี 2018 ของเกมสุดฮิต Pokémon GO ที่มีอีเวนท์ “เดินในสวน” ทั้งในโลกของเกม และโลกของความเป็นจริง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทีมการตลาดของบริษัท Niantic ได้พยายามใช้ข้อความสร้างความแตกต่างในปีนี้ โชคดีที่ Pokémon GO Fest 2018 ได้ปล่อยกิจกรรมนี้ออกมาตามที่นักพัฒนาเกมวางแผนเอาไว้อาจจะมีการติดขัดบ้างเล็กน้อย แต่รับรองได้ว่าสนุกมาก
ก่อนหน้านี้เคยมีกิจกรรมใน Chicago เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว แม้ว่าจะเกิดปัญหา และความวุ่นวายก็ตาม ซึ่งปัญหาที่ว่านั้นมีเรื่องค่าธรมเนียมในการเข้าร่วมงาน, การเชื่อมต่อระบบเครือข่ายมือถือ และเซิร์ฟเวอร์ ผู้เล่นหลายรายไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้มากนัก ซึ่งทาง Niantic ได้ออกมาขอโทษ และออกประกาศในวันเดียวกันว่าจะมอบเงินเทียบเท่าเงินในเกมจำนวน US$100 เหตุการณ์อันเลวร้ายในครั้งนี้สงผลต่อ คดีที่ Niantic กำลังสู้คดีอยู่
จากประสบการณ์ความประทับใจเมื่อปีที่แล้ว กิจกรรมในครั้งนี้จัดในสถานที่ที่ไม่เหมือนใครเพื่อการรวมตัวกันของผู้เล่นทั่วโลก แฟนๆ ของเกมนี้ได้ตั้งข้อสังเกตว่ามีความโดดเด่นในด้านการสร้างชุมชนในหมู่ผู้เล่น Pokémon GO Fest เมื่อปีที่แล้วปกคลุมไปด้วยความอบอุ่น และความรู้สึกที่ค่อนข้างคลุมเครือแม้ว่าจะเกิดเหตการณ์โกลาหลบ้างในวันนั้น แผนในการจัดจำหน่าย Legendary Pokémon สุดยิ่งใหญ่เป็นครั้งนี้จะช่วยบิ้วอารมณ์ความรู้สึกหลังจากกิจกรรมนี้ได้เสร็จสิ้นลง
สำหรับงานอีเวนท์เมื่อช่วงวันหยุดที่ผ่านมากิจกรรมบางอย่างที่เคยมีในอีเวนท์เมื่อครั้งก่อนได้มีการนำออกไป อย่างเช่น ฟีเจอร์บางอย่างที่จะเป็นปัญหา ในสวนนี้ไม่มีรั้วรอบขอบชิด ดังนั้นผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถเข้าออกได้อย่างอิสระ ไม่มีเวทีหลักในการนำเสนอจากทีมงานหลักซึ่งทำให้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายในปีที่แล้ว ในสวนแห่งนี้จะไม่มียิมในเกมซึ่งช่วยลดโอกาสในการชุมนุมที่จะทำให้เครือค่ายมือถือล่มในบริเวณนั้น และที่สำคัญไม่มีบูธของสปอนเซอร์ และร้านขายของที่ระลึกต่างๆ
สำหรับคุณลักษณะใหม่ของ Pokémon GO Fest 2018 คือการเปลี่ยนแปลงสถานที่จาก Grant Park มาเป็น Lincoln Park ซึ่งผู้เข้าร่วมนั้นจะต้องใช้ระยะทางในการเดินรอบกว่า 1.8 ไมล์ เพื่อให้สอดคล้องกับคำขวัญที่ว่า “ออกไปลุย” ทาง Niantic จดจำได้ว่าแฟนๆ ต้องเดินอย่างเบียดเสียดกันเท่าไหร่เมื่อปีที่แล้วภายในพื้นที่กรอบสี่เหลี่ยมเล็กๆ ด้วยอุณภูมิ 90 องศาฟาเรนไฮต์ และแสงแดดที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมในปีนี้ แม้ว่าการเดินจะเหน็ดเหนื่อยอยู่บ้าง แต่งานในครั้งนี้ก็สนุกอยู่ไม่น้อย
นอกจากความเหนื่อยล้าจากความร้อนแล้ว เหมือนว่าจะไม่มีอะไร แต่กลับได้พบรอยยิ้มบนใบหน้ามากมายในวันอาทิตย์ ทาง Niantic ได้รายงานเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่าผู้เล่นกว่า 21,000 คนได้เข้าร่วมอีเวนท์นี้ อีก 180,000 คนได้ร่วมกิจกรรมในพื้นที่ของ Chicago และอีกกว่า 10 ล้านคนได้ทำกิจกรรม Professor Willow’s Global Challenge จากทั่วโลก ด้วยจำนวนผู้เข้าร่วมครั้งนี้ เหล่าเทรนเนอร์สามารถเคลียร์กิจกรรม และปลดล็อกรางวัลต่างๆ ในเกมได้ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วถึงวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมาได้ไม่ยาก
การสรุปผลจากทาง Niantic ได้กล่าวว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้เดินโดยเฉลี่ยคนละ 6 กิโลเมตร (หรือประมาณ 3.7 ไมล์) สามารถเคลียร์เควสไปได้โดยเฉลี่ย 36 เควส และจับ Pokémon ได้เฉลี่ย 350 ตัว ซึ่งผู้เล่นหลายคนที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้คงใจจดใจจ่อกับการตามล่าหา Regional Pokémon Torkoal (โปเกม่อนประจำภูมิภาค) รวมถึงโปเกม่อนหายากอย่าง Unown กว่า 60 แบบ Shiny Pokémon ก็ออกค่อนข้างเยอะ และสามารถหามาสะสมได้จนครบ รวมถึง Shiny Plusle และ Minun ได้ปล่อยออกมาให้จับเป็นครั้งแรกพร้อมกับอีเวนท์นี้ แน่นอนว่า Mythical Pokémon Celebi โปเกม่อนในตำนานเป็นรางวัลสูงสุดสำหรับผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรม และไม่สามารถใช้งานได้กับผู้ที่ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรม
สำหรับ “ถิ่นที่อยู่” ทั้ง 4 แบบนั้นได้สร้างมาจากโลกแห่งความจริงทั้งดินแดงน้ำแข็ง, ทะเลทราย, ภูเขาไฟ และป่า ซึ่งทาง Niantic ได้ล้ำไปอีกขั้น ในปีนี้ได้ช่วยเหลือผู้เล่นให้รู้สึกเหมือนกับถูกดูดเข้าไปในเกม และมีผู้คนรายล้อมมากมายในการออกผจญภัยในการตามหาโปเกม่อนครั้งนี้ Pokémon กว่า 50 สายพันธุ์สามารถจับได้ตามแต่ละถิ่นที่อยู่ รวมถึงโปเกม่อนหลักๆ ที่มาพร้อมกับ Shiny
ทั้งที่นั่งพักประจำทีม และสภาพแวดล้อมต่างๆ ภายในสวนแห่งนี้ ยังได้มีการแจกเหรียญพิเศษ, โปสเตอร์ และเสื้อยืด การแจกรางวัลในครั้งนี้ทำขึ้นเพื่อสร้างความบันเทิง แต่ก็ได้สร้างความสับสนให้แฟนๆ บางคน อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจ และกำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่นั้นขึ้นอยู่กับประสบการณ์ในการเล่นของแต่ละคน นอกจากนี้ทางทีมงานยังช่วยอำนวยความสะดวกในการเทรดระหว่างผู้เข้าร่วมกิจกรรม ภาพรวมในครั้งนี้มีการบริหารจัดการที่ดีขึ้นทำให้สวนแห่งนี้เปี่ยมไปด้วยความสุขสนุกสนาน
ได้มีการโต้ตอบคำวิพากษวิจารณ์ไม่กี่ข้อเท่านั้นสำหรับประสบการณ์ในการเข้าร่วมอีเวนท์ครั้งนี้ ซึ่งดูเหมือนว่าปัญหาการจัดจำหน่ายบัตรเข้างานได้ใช้ประโยชน์จากระบบได้อย่างเต็มที่ แต่ผู้ที่เข้าร่วมงานได้กลับถูกรีพอร์ตเนื่องจากใช้โปรแกรมปลอมแปลง GPS ซึ่งสอดคล้องกับข้อกำหนดของทาง Niantic พวกเขาสามารถแยกออกได้ว่าผู้เล่นคนไหนเข้าร่วม หรือไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมจากสายรัดข้อมือที่ได้รับแบบ QR codes ในจดหมาย รวมถึงผู้เล่นอื่นๆ ที่ได้โพสต์ QR codes ผ่านทางออนไลน์
ส่วนตัวพบว่างานอีเวนท์นี้ไม่พบปัญหาอื่นๆ นอกจากการขาดการเชื่อมต่อเป็นครั้งคราวซึ่งไม่มากเกินไป และดูสมเหตุสมผลเมื่อพิจารณาถึงการใช้งานเครือข่ายจำนวนมาก และผู้เข้าใช้งานเซิร์ฟเวอร์ ต้องขอขอบคุณทาง Niantic ที่ได้ให้มือถือมาใช้งานในช่วงสุดสัปดาห์อันแสนวิเศษ มีแค่ Sprint สปอนเซอร์เพียงหนึ่งเดียวที่ให้การสนับสนุนเหมือนกับเมื่อปีก่อน แต่ในครั้งนี้ผู้เล่นสามารถจับเหล่าโปเกม่อนแบบวิชวลได้ง่ายมากขึ้น
นอกจากกิจกรรม Pokémon GO Summer Tour และ Global Challenge ของทาง Niantic ที่จัดขึ้นในฤดูร้อนนี้ ผู้เล่นสามรถตามกิจกรรมต่อได้ที่อีเวนท์ Safari Zone ในเมือง Yokosuka ประเทศญี่ปุ่นวันที่ 29 สิงหาคมจนถึง 2 กันยายนนี้ หวังว่ากิจกรรมในครั้งนี้จะราบรื่นเหมือนกับ Pokémon GO Fest 2018 ที่ผ่านมา และผู้เข้าร่วมสามารถจับสายพันธุ์แมลงอย่าง Tropius, Shiny Wingull และพันธุ์อื่นๆ ที่ออกมาให้จับไม่หวาดไม่ไหวกันเลยทีเดียว