ทวิตเตอร์ทางการของเฟรนไชส์ เบย์เบลด ได้ลงประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า Beyblade Burst จะมีอนิเมะภาคต่อ Beyblade Burst God ที่จะออกอากาศทางโทรทัศน์ประเทศญี่ปุ่นเดือนเมษายนนี้ และเว็บไซต์ของ TV Tokyo ก็ได้ยืนยันแล้วว่าอนิเมะภาคใหม่จะออกอากาศทางช่องนี้
Beyblade Burst ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 เมษายน ปีก่อนจนถึงปัจจุบัน Akiyama Katsuhito (Inazuma Eleven, Bubblegum Crisis, El-Hazard: The Wanderers) เป็นผู้กำกับอนิเมะเรื่องนี้กับทาง Oriental Light and Magic (สตูดิโอที่สร้าง Yo-kai Watch, Pokémon) โดยมี Ohashi Toshiaki (หัวหน้าผู้กำกับอนิเมชั่นของ Danboru Senki W, Danboru Senki Wars) มี Sonoda Hideki (Pokémon franchise, Machine Robo: Revenge of Chronos, Sonic Soldier Borgman) เป็นผู้เขียนบทของภาคนี้
อนิเมะเรื่องดังกล่าวออกอากาศในประเทศแคนาดาผ่านทางช่อง Teletoon ตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน ก่อนจะเริ่มฉายในช่อง Disney XD เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม เว็บไซต์ Daisuki เริ่มปล่อยให้รับชมออนไลน์พร้อมคำบรรยายภาษาไทยในเดือนธันวาคมนี้
บริษัทผู้ผลิต d-rights ลงรายละเอียดของอนิเมะเรื่องดังกล่าวไวดังนี้ :
เบย์เบลดเป็นของเล่นต่อสู้ที่โด่งดังที่สุดในโลก เด็กผู้ชายทั่วทั้งโลกต่างทุ่มเทจิตใจและวิญญาณไปกับการต่อสู้เบย์เบลดอันดุเดือด
Valt Aoi คือ เด็กนักเรียนชั้น ป.5 ที่คลั่งไคล้เบย์เบลด, Valt มีเพื่อนสนิทในวัยเด็กอย่าง Shu Kurenai ที่ถูกขึ้นชื่อว่าเป็นอัจฉริยะด้านเบย์เบลดและเป็นนักเล่นเบย์เบลดที่ผ่านเข้าสู่รอบสี่คนสุดท้ายของการแข่งระดับชาติ Valt ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Shu จึงเข้าร่วมการแข่งขันระดับชาติครั้งต่อไป
แต่การเข้าร่วมการแข่งใหญ่ระดับชาติ Valt จะต้องผ่านการแข่งขันระดับเขต — ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะเขามีคู่ต่อสู้อันเข้มแข็งขวางทางเขาอยู่
ด้วยจิตใจที่อยากจะเอาชนะ Valt จึงตั้งเป้าที่จะเป็นแชมป์ เพื่อที่เขาจะได้ต่อสู้กับ Shu และมุ่งหน้าสู่การแข่งขันระดับประเทศต่อไป ระหว่างที่ต่อสู้อยู่นั้น Valt ก็ได้ขยายวงกลุ่มเพื่อนโดยไม่รู้ตัวเลยว่า เขามีความฝันที่จะกลายเป็นนักเล่นเบย์เบลดที่เก่งที่สุดในโลก
บริษัทของเล่น Hasbro กับบริษัท Sunrights บริษัท ลูกในอเมริการของ d-rights ได้ประกาศแผนว่าจะออกจำหน่าของเล่นจากอนิเมะ Bayblade Burst นอกประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทาง Hasbro ได้จำหน่ายของเล่นในอเมริกาตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา
เบย์เบลด อันเป็นของเล่นของ Takara Tomy ได้เป็นแรงบันดาลใจให้มีซีรีส์มังงกะออกมาในปี 2000-2003 ในประเทศไทยหนังสือการ์ตูนมี สำนักพิมพ์บงกช เป็นผู้จัดทำ ตัวหนังสือการ์ตูนก็ถูกดัดแปลงอนิเมะเบย์เบลดออกมาอีกสามภาค (Beyblade, Beyblade: V-Force, and Beyblade G Revolution) ในช่วงปี 2001-2003 และออกมาเป็นภาพยนตร์ เบย์เบลด ศึกลูกข่างสะท้านฟ้า เดอะ มูฟวี่ ตอน ศึกพญามังกรในปี 2002 การ์ตูนภาคแยกอย่าง เมทัลไฟท์ เบย์เบลด (ลิขสิทธิ์ในไทยเป็นของทางสำนักพิมพ์บงกช) ก็ได้ถูกดัดแปลงเป็นอนิเมะอีกสี่ภาค เมทัล ไฟท์ เบย์เบลด ศึกลูกข่างพิฆาต ภาค 1 – 2 (Beyblade: Metal Fusion, Beyblade: Metal Masters) , Beyblade: Metal Fury, และ Beyblade: Shogun Steel รวมไปถึงภาพยนตร์ เมทัล ไฟท์ เบย์เบลด เดอะ มูฟวี่ ภาค พิชิตลูกข่างสุริยะ
[Via pKjd]