เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาทางเว็บไซต์ของเฟรนไชน์อนิเมะเรื่อง Overlord ได้ฉายตัวอย่างสำหรับภาพยนตร์อนิเมะ Overlord: Fushisha no Ō (Overlord: The Undead King ราชันอมตะ) ซึ่งเป็นฉบับภาพยนตร์พาร์ทแรกจาก 2 พาร์ทของอนิเมะเรื่องนี้
Overlord: Fushisha no Ō จะเปิดตัวในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ และ Overlord: Shikkoku no Senshi (Overlord: The Dark Warrior อัศวินแห่งความมืด) จะเปิดตัวในวันที่ 11 มีนาคม (นอกจากนี้ชื่อของภาพยนตร์ได้ตั้งชื่อเหมือนกับผลงานไลน์โนเวล 2 เล่มแรกเรื่อง Overlord ผลงานของ อ.Kugane Maruyama) โดยภาพยนตร์เรื่องนี้จะเพิ่มฉากใหม่ๆ และได้ so-bin ผู้ออกแบบตัวละครต้นฉบับ (และผู้วาดภาพประกอบของนิยาย) เป็นผู้ร่างแบบสำหรับตัวละครใหม่ นอกจากนี้ยังได้วง Myth & Roid กลับมารับหน้าที่ในการทำเพลงประกอบให้อีกครั้งหลังจากฝากผลงานไว้ในเพลงประกอบในฉบับทีวีอนิเมะ
ทีวีอนิเมะ Overlord ทั้ง 13 ตอน ได้ออกอากศญี่ปุ่นไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2015 โดยเรื่องราวของอนิเมะเรื่องนี้เกิดขึ้นในปี 2138 เมื่อเกมเสมือนจริงได้รับความนิยม เกมออนไลน์ชื่อดังอย่าง Yggdrasil ก็ได้ปิดตัวลงอย่างเงียบๆ แต่ว่าตัวเองของเรื่องอย่าง Momonga ได้ตัดสินใจว่าจะไม่ออกจากเกม หลังจากนั้นเขาได้กลายร่างเป็นโครงกระดูกซึ่งเป็น “จอมราชันเวทย์ที่แข็งแกร่ง” โลกของเกมยังคงมีการเปลี่ยนแปลงไปร่วมกับเหล่า NPCs ที่เริ่มจะมีความรู้สึกขึ้นมา เนืองจากเขาไม่มีพ่อแม่ พวกพ้อง หรือสถานที่นัดพบใดใดสำหรับชีวิตที่สุดแสนธรรมดาของหนุ่มน้อยคนนี้ Momonga จึงมุ่งมั่นที่จะครองโลกของเกมนี้แทน
นอกจากนี้โนเวลเล่มที่ 11 ได้จัดชุด Blu-ray Disc ที่มีเหล่าตัวละคร chibi ตอนใหม่ของ Ple Ple Pleiades ซึ่งมีความยาวประมาณ 30 นาที ซึ่งมีตัวละครอย่างเหล่าเมดนักรบ Pleiades และเหล่าตัวละครอื่นๆ ที่เป็น Floor Guardians
อ. Kugane Maruyama เดิมทีได้เปิดตัวไลท์โนเวลซีรีส์นี้ผ่านทางออนไลน์เมื่อปี 2010 และทาง Enterbrain ของค่าย Kadokawa ได้รับมาตีพิมพ์ และวาดภาพประกอบโดยศิลปิน so-bin ในปี 2012 ซึ่งซีรีส์นี้มียอดจำหน่ายกว่า 2.5 ล้านเล่มในประเทศญี่ปุ่น ส่วนในประเทศไทยนั้นทางสำนักพิมพ์ Dexpress Publishing ได้รับลิขสิทธิ์ในการตีพิมพ์ และจัดจำหน่ายไลน์โนเวล แปลโดย เจษฎา เกรียงเม็งโคตร ซึ่งได้จัดจำหน่ายไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา รวมไปถึงจัดจำหน่ายในรูปแบบมังงะเล่มที่ 1 ไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเช่นกัน