Eureka Seven: Hi-Evolution ภาคที่ 2 ให้ Fujiwara Keiji รับบท ดิวอี้ โนวัค แทน Tsujitani Kouji

เว็บไซต์ทางการของภาพยนตร์ Eureka Seven: Hi-Evolution ได้ประกาศว่าภาพยนตร์ Anemone: Eureka Seven: Hi – Evolution ภาพยนตร์ภาคที่สองของ Eureka Seven: Hi-Evolution จะทำการเปลี่ยนตัวนักพากย์ของตัวละคร ดิวอี้ โนวัค จาก Tsujitani Kouji เป็น Fujiwara Keiji หลังจากที่ คุณ Tsujitani ที่พากย์บทดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2005 ได้เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา

การกลับมารับบทบาทใหม่นี้ถือว่าเป็นการกลับมาของ Fujiwara Keiji ในซีรีส์ Eureka Seven หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาเคยพากย์เสียงของ ฮอลแลนด์ตั้งแต่ปี 2005 แต่ไม่สามารถกลับมารับบทเดิมในภาพยนตร์ภาคใหม่ได้ เนื่องจากช่วงนั้นคุณ Fujiwara ได้หยุดการทำงานไปรักษาตัวเอง จนกระทั่งเขากลับมาพากย์เสียงเมื่อปีที่ผ่านมา และ Morikawa Toshiyuki ได้มารับบทบาทของ ฮอลแลนด์ แทน ทั้งนี้ คุณ Fujiwara ยังได้พากย์บทเป็น เร็นตัน ในภาค Eureka Seven AO ด้วย

ภาพยนตร์มีกำหนดออกฉายในประเทศญี่ปุ่นวันที่ 10 พฤศจิกายน นี้

เป็นครั้งแรกของซีรีส์ยูเรก้าเซเว่น ที่เนื้อเรื่องจะเกิดขึ้นในกรุงโตเกียว ในภาพยนตร์ภาคนี้ อาเนโมเน่ จะเป็นตัวเอกหลัก ในฐานะเด็กหญิงที่สูญเสียพ่อไปในการต่อสู้ ณ กรุงโตเกียวเมื่อเจ็ดปีก่อนภาพยนตร์จะเริ่มเรื่อง ทำให้เธอต้องอยู่ตัวคนเดียวกับ กัลลิเวอร์ ตุ๊กตาของเธอ และมี AI โดมินิคิดส์ (Dominikids) เป็นที่พึ่งทางใจของเธอ ในเนื้อเรื่องปัจจุบัน อาเนโมเน่ เป็นปัจจัยหลักของหน่วยทดลองที่ใช้ชื่อว่า ‘แอซิด’ (Acid) เพื่อทำการต่อสู้กับยูเรก้าตัวที่เจ็ด ‘ยูเรก้าเซเว่น’ ศัตรูที่กวาดล้างมนุษยชาติไปแล้วกว่า 2,600 ล้านคน ในภาวะใกล้สูญสิ้นมนุษย์ที่เหลือฝากความหวังไว้กับอาเนโมเน่ ในขณะที่เธอดำดิ่งเข้าไปภายใน ยูเรก้าเซเว่น

ทีมงานของภาพยนตร์ยกจากมาภาคแรกทั้งหมด มีเพิ่มเติมคือได้ Kusanagi Takuhito และ Katagai Fumihiro มานั่งตำแหน่งดีไซน์เนอร์เพิ่มเติม, Fujita Shigeru กับ Kurashima Ayumi ยังคงตจำแหน่งผู้กำกับอนิเมชั่นตัวละคร แต่ตอนนี้ได้เครดิตเป็นผู้ออกแบบตัวละครรองด้วย Yokoya Kenta ในภาคนี้มาทำหน้าที่ผู้กำกับอนิเมชั่นเครื่องจักร กับออกแบบ ในขณะที่ ผู้กำกับอนิเมชั่นเครื่องจักรของภาคก่อนอย่าง Abe Shingo ตอนนี้รับหน้าที่เป็นอนิเมเตอร์หลักร่วมกับ Kakita Hideki, Kaneko Shuichi, Ootsuka Ken และ Nagano Nobuaki

ภายในเรื่องยังมีหุ่น ‘Nirvash X’ มาปรากฎตัวด้วย ซึ่ง Kawamori Shoji เป็นผู้ออกแบบหุ่นตัวนี้ด้วยตนเอง และถือว่าเป็นหุ่นขนาดใหญ่ที่สุดสำหรับซีรีส์ ยูเรก้า เซเว่น นี้

ภาพยนตร์ภาคแรกเปิดฉายในโรงภาพยนตร์ 107 เมื่อเดือนกันายนปี 2017 หลังจากเปิดฉายรอบปฐมทัศน์โลกในงาน Otakon ในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน หนังทำรายได้ในบ้านเกิดไปราว 63 ล้านเยน ในประเทศไทย ทางเดกซ์ได้เปิดฉายภาพยนตร์ภาคแรกไปเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ภาพยนตร์ภาคแรกลงจะย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ ซัมเมอร์ออฟเลิฟ ครั้งแรกสุดที่เกิดขึ้นก่อนเนื้อเรื่องของ Eureka Seven ภาคหลักกว่าทศวรรษ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ในอนิเมะทั้งสองภาคเคยกล่าวถึงแต่ยังไม่เคยลงรายละเอียด “จุดเริ่มต้นของทุกสิ่งทุกอย่าง” เอาไว้ ตัวภาพยนตร์จะมีเนื้อหาหลักจาก Eureka Seven ภาคแรก แต่จะมีฉากจบแบบใหม่ และในไตรภาคนี้ก็จะมีบทพากย์ใหม่, ฉากเดิมที่นำกลับมาเขียนใหม่ รวมถึงมีฉากใหม่ที่ยังไม่เคยปรากฎในซีรี่สดั้งเดิม

ภาพยนตร์ภาคสุดท้ายของไตรภาค มีกำหนดฉายในปี 2019

นักพากย์ในภายพนตร์ฉบับญี่ปุ่น Sanpei Yuko, Nazuka Kaori, Tsujitan i Kouji, Neya Michiko, Juurouta Kosugi และ Hisakawa Aya ที่เคยพากย์ตัวละครในฉบับดั้งเดิมจะกลับมาอีกครั้งและรับบทเดิมของตนเองอย่าง เร็นตัน, ยูเรก้า, ดิวอี้, ทัลโฮ, ชาร์ลส์ และ เรย์ ตามลำดับ Midorikawa Toshiyuki มารับบท ฮอลแลนด์ แทน Fujiwara Keiji ที่เคยพากย์ไว้ในภาคต้นฉบับ (คุณ Fujiwara อยู่ในช่วงพักฟื้นจากอาการป่วยในขณะการจัดทำหนังภาคแรก) ส่วน Furuya Tohru รับบทเป็น แอดร็อค เทิร์สตัน (จากที่ฉบับเดิมไม่เคยมีเสียงพากย์)

Sources: Eureka Seven: Hi – Evolution anime’s official website via Nijimen