เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมาได้มีการฉายภาพยนตร์ Kingsglaives Final Fantasy รอบพิเศษที่โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย รอยัล แกรนด์เธียเตอร์ ชั้น 6 ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ซึ่งเป็นรอบฉายเดียวกับที่เปิดตัวในประเทศอเมริกาด้วย
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นรูปแบบ Full CG 3D Animation มีเนื้อหาเกี่ยวกับช่วงย้อนความก่อนที่จะเข้าสู่เกม Final Fantasy XV จริงๆ ซึ่งจะช่วยให้แฟนๆ ที่เล่นเกมได้รับรู้ถึงที่มาที่ไปก่อนจะเข้าเนื้อหาของเกมมากยิ่งขึ้น
รู้จักกับ Kingsglaives Final Fantasy กันสักนิด
Glaives (เกลฟ) คือหน่วยราชองครักษ์ของพระราชาเรจิสแห่งอาณาจักรลูซิส มีสมาชิกอยู่หลายคนด้วยกัน สามารถใช้เวทมนต์แขนงต่างๆ ได้ โดยเรื่องราวจะเน้นไปที่ตัวละครเอกนิกซ์ หนึ่งในหน่วยเกรฟผู้จงรักภัคดีต่อองค์ราชาเรจิสเป็นอย่างมาก เพราะเคยได้รับการช่วยเหลือจากองค์ราชาเรจิสจนรอดชีวิตมาได้
เนื้อเรื่องย่อ
ลูซิส อาณาจักรแห่งเวทมนต์ที่ยิ่งใหญ่ และ อาณาจักรนีเฟิลไฮม์แห่งเทคโนโลยีทางการทหารและหุ่นยนต์ ทำสงครามกันเรื่อยมาหลายปี และฝ่ายลูซิสมักจะพ่ายแพ้โดนยึดดินแดนไปแล้วมากมาย แต่เมืองหลวงอินซอมเนียของฝ่ายลูซิสยังสามารถยืนหยัดอยู่ได้เพราะพลังบาเรียจากคริสตัลภายในเมือง ทว่าอยู่ๆนีเฟิลไฮม์ก็มาขอเซ็นต์สัญญาสงบศึกกับลูซิสทั้งที่ฝ่ายตัวเองยังได้เปรียบอยู่โดยมีเงื่อนไขอยู่ 2 ข้อคือ..
- เมืองต่างๆในอาณาจักรลูซิสยกเว้นเมืองหลวงอินซอมเนียต้องตกเป็นของฝ่ายนีเฟิลไฮม์
- เจ้าหญิงลูน่าเฟรย่าจากอาณาจักรเทเนเบร ที่ฝ่ายนีเฟิลไฮม์เคยจับตัวได้เมื่อ 12 ปีก่อน ต้องอภิเษกกับเจ้าชายน็อคทิสแห่งอาณาจักรลูซิส
เพราะอะไร นีเฟิลไฮม์ถึงมาขอสงบศึกง่ายๆ แบบนี้ หรือพวกเขากำลังวางแผนอะไรไว้อยู่กันแน่?
กราฟิก
แน่นอนว่าสตูดิโอ Square Enix ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวังเลยแม้แต่น้อย ทั้งงานศิลป์,ลวดลายเครื่องแบบและการจัดฉากยังคงสวยงามตามสไตล์ Final Fantasy เอฟเฟคต่างๆก็ตระการตาจัดเต็มซะยิ่งกว่าที่เคยทำภาคก่อนๆซะอีก ซึ่งผู้เขียนเชื่อได้ว่าหากมีเรื่องต่อๆไป ก็จะออกมาดียิ่งขึ้นกว่านี้ไปเรื่อยๆ ด้วย
ภาพบางฉากของภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนี้ หลายๆฉากได้รับการปรับปรุงใหม่หมดจากเทรลเลอร์ของเกม Final Fantasy XV ตัวเก่าๆ รวมไปถึงโมเดลขององค์ราชาเรจิสและเหล่าขุนนาง ซึ่งก็ดูเป็นแฟนตาซีสมกับรูปแบบของเนื้อเรื่องมากยิ่งขึ้น
เสียง
ถ้าให้พูดถึงเสียงแล้วต้องขอเน้นพูดถึงเรื่องดนตรีประกอบสักหน่อย เพราะเรื่องนี้มีการนำเพลงเก่าๆ ของซีรี่ส์ Final Fantasy กลับมาดัดแปลงใช้ใหม่มากมายด้วยกัน แฟนเกมยุคเก่าๆ ฟังแล้วก็อดหวนคิดถึงซีรี่ส์เก่าๆ ไปด้วยขณะดูภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนี้
ด้านเสียงพากย์ที่นำมาฉายในโรงภาพยนตร์นี้เป็นเสียงภาษาอังกฤษ ซึ่งก็พากย์ออกมาได้ดี และเข้ากับธีมฉากของเรื่องเป็นอย่างมาก หากใครดูภาพยนต์อนิเมชั่นเรื่องนี้โดยเปิดใจไม่มุ่งเน้นว่าจะต้องเป็นเสียงญี่ปุ่นเท่านั้น ก็จะอินตามกับเนื้อหาได้ไม่ยากเลย
ข้อดีต่างๆ
- นอกจากที่กล่าวไปข้างต้นแล้วสิ่งนึงที่ผู้เขียนชอบมากๆ ในภาพยนตร์เรื่องนี้คือแฟนเซอร์วิสครับ เพราะในเรื่องนี้แอบมีสอดแทรกอะไรเล็กๆ น้อยๆ อย่างฉาก, วัตถุ, เพลง หรือแม้แต่มนต์อสูร ที่กล่าวถึงหรือดึงมาจากซีรี่ส์เก่าๆมากมาย แฟนๆซีรี่ส์ได้เห็น หรือได้ฟังจะต้องร้อง “อ๋อ” อยู่หลายจุดเลยทีเดียว
- เน้นอีกครั้งกับเรื่องกราฟิกทียิ่งใหญ่อลังการ ซึ่งจะทำให้แฟนๆ ถึงกับต้องอ้าปากค้างและขนลุกอยู่หลายต่อหลายฉากด้วยกัน เรียกได้ว่าแค่เข้าไปเสพย์กราฟิกก็อิ่มจนคุ้มแล้ว
- เนื้อเรื่องของภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนี้เป็นการปูทางไปสู่เกม Final Fantasy XV อย่างแท้จริง ซึ่งทั้งหมด เริ่มจาก 0 ดังนั้นแฟนๆจึงสามารถดูเข้าใจได้ไม่ยากเลย แถมแฟนเกมที่ดูจบแล้วยังแทบกรีดร้องให้เกมออกวางจำหน่ายในวันพรุ่งนี้เลยด้วยซ้ำ
- ฉากบู๊ที่จัดเต็ม และให้เยอะมาก มากจนทำให้ผู้ชมตื่นเต้นได้ตลอดเวลาโดยเฉพาะช่วง 40 นาทีหลังเป้นอะไรที่สนุกเร้าใจมาก
ข้อเสียต่างๆ
- ด้วยเวลาฉายที่จำกัดเพียงแค่ 2 ชั่วโมง ทำให้เนื้อเรื่องค่อนข้างรวบรัด และมุ่งเน้นไปที่นิกซ์เพียงคนเดียว ซึ่งหน่วยเกรฟคนอื่นๆก็เลยดูกร่อยๆ ไร้มิติไปบ้าง ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าตัวละครในเรื่องนี้มีเยอะมากจนดูจบแล้วยังจำชื่อตัวละครได้ไม่หมดเลย และทีมงานคงไม่สามารถใส่รายละเอียดปลีกย่อยของหน่วยเกรฟคนอื่นๆให้มากกว่านี้ได้ ซึ่งผู้เขียนเองก็แอบคาดหวังไว้ว่าจะมีการกล่าวถึงพวกเขาอย่างละเอียดในเนื้อเรื่องของเกมต่อไป
- เนื้อหาบางช่วงอาจดูไม่ค่อยสมเหตุสมผล(นิดหน่อย) อย่างเช่นการกระทำของตัวละครที่ดูขัดใจบ้าง เกินจริงไปบ้าง
- แม้ฉากบู๊หลายต่อหลายฉากของเรื่องนี้ทำออกมาได้ดี แต่ด้วยการพยายามเล่นมุมกล้องมากเกินไปในช่วงท้ายเรื่อง ทำให้ฉากบู๋บางฉาก เฉพาะที่เป็นฉากต่อสู้ตะลุมบอนแต่ดันใช้มุมกล้องแบบโคลสอัพซึ่งทำให้มองลำบากว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ก็มีอยู่แค่ไม่กี่ฉากเท่านั้น
- แม้เนื้อเรื่องจะเริ่มจาก 0 ทำให้สามารถดูได้ทุกคนไม่ใช่เฉพาะแต่ผู้เล่นเกม แต่ในเนื้อเรื่องก็ไม่มีการเกริ่นถึงที่มาของเวทมนต์, มอนสเตอร์มากเท่าไหร่นัก ทำให้คนที่ไม่รู้จักซีรี่ส์นี้อาจจะงงในเรื่องพวกนี้ได้ง่าย ซึ่งสำหรับแฟนๆ Final Fantasy มาตลอดก็คงไม่มีปัญหาอะไรเพราะคุ้นชินกับโลกของเกมนี้อยู่แล้ว
สรุป
เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของ Square Enix เลยก็ว่าได้ ซึ่งผู้เขียนอยากให้มองภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนี้ด้วยใจเป็นกลางไม่นำไปเทียบกับ Spirit Within หรือ Advent Children ครับ เพราะเรื่องนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงทั้งเนื้อหาที่ค่อนข้างจะเป็นการเมืองแกมหักเหลี่ยมซึ่งมีความตึงเครียดมากกว่า เด็กๆ ดูก็อาจจะรุ้สึกเบื่อหรือไม่รู้เรื่องไปเลย แถมตัวละครยังเป็นเซ็ตใหม่ทั้งหมดที่ไม่เคยปรากฏในเกมเลยด้วย แฟนๆ ซีรี่ส์ที่ติดตามคาแรคเตอร์เด่นๆ จากภาคก่อนๆ อาจไม่ค่อยอินกับตัวละครเท่าไหร่นักด้วยเหตุผลข้างต้นที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ปูเนื้อเรื่องของตัวละครอื่นๆ ไว้ค่อนข้างน้อยนั่นเอง
สำหรับคะแนนของเรื่องนี้รับไป 8/10 เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นที่แฟนๆ Final Fantasy ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง!
ขอขอบคุณผู้สนับสนุน
- บริษัท Next Generation Innovation (NGIN)
- Sony Pictures Entertainment
- Aniplex
- ภาพประกอบจาก Official Trailer ภาพยนตร์ Kingsglaives Final Fantasy ในเว็บไซดฺ์ Youtube
รีวิวโดย ทีมข่าว DexNews