ปี 2017 น่าจะเป็นอีกปีหนึ่งที่มีภาพยนตร์รีบูทออกมาหลายเรื่อง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่ หนึ่งในภาพยนตร์นั้นก็คือ Power Rangers หนังขบวนการห้าสีฉบับฝรั่งที่ซื้อสิทธิ์ของเซนไตไปสร้างโชว์แบบใหม่เมื่อช่วงปี 1993 ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขี้นหลายครั้ง และสุดท้ายสิทธิ์ก็กลับมาอยู่ที่ Haim Saban ผู้ผลิตดั้งเดิม ที่เขาตัดสินใจจะรีบูท Power Rangers ภาคแรกสุดมาเป็นภาพยนตร์ฉบับนี้
ในฐานะที่คุ้นเคยกับทั้งซีรี่ส์ฝั่งเซนไต และฝั่ง Power Rangers การได้รับโอกาสไปชมภาพยนตร์ภาคนี้ทำให้เราคิดุอยู่มากทีเดียวว่าตัวภาพยนตร์นั้นจะทำออกมาได้น่าดูหรือไม่ ด้วยเหตุผลที่ตัวละครถูกยกเครื่องใหม่หมด เหล่าเด็กดีของโรงเรียนโดนเปลี่ยนเป็นกลุ่มนักเรียนที่หลากหลายมากขึ้นซึ่งถือว่าทันยุคดี นางร้ายของเรื่องนี่แซ่บเวอร์ยอมใจ ส่วนหุ่นยนต์ของเรื่องดันดูแปลกตา
“จะไหวเหรอเนี่ย” คือความคาดหวังแรกของผู้เขียนตอนก่อนเข้าโรง
ความคิดนี้ผ่านหัวของผู้เขียนไปอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุที่ว่าพอตัวภาพยนตร์เข้าเรื่องแล้ว มันพาเราไปพบกับความเปลี่ยนแปลงที่กล้าหาญของทีมผู้สร้าง ทั้งในส่วนของตัวละครที่มีมิติความลึกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตัวเอกใหม่ทั้งห้าคนที่กลายเป็นวัยรุ่นขบถมีปัญหา ที่สมัยก่อนอาจจะทำให้เรารู้สึกไม่ดีกับการเป็น Bad Boys/Bad Girls แต่ในตัวภาพยนตร์ Power Rangers ฉบับรีบูททำให้เราเห็นว่าพวกเขาแค่ยังไม่ถูกสังคมเข้าใจและตัวพวกเขาเองก็พยายามทำความเข้าใจสังคมกันอยู่
ปูมหลังของ ซอร์ดอน ที่ถือว่าเป็นอาจารย์ให้ตัวละครหลัก กับ ริต้า ตัวร้ายของเรื่อง ที่ปรับเปลี่ยนไปมากแต่ก็สอดคล้องกับเนื้อเรื่อง และทำให้คนดูจับต้องตัวละครที่ไมใช่มนุษย์โลกทั้งสองตัวนี้ได้มากขึ้น สอดคล้องกับการเปลี่ยนที่มาของชุด Power Rangers ที่เราเคยเห็นภาพนิ่งแล้วรู้สีกขัดใจ แต่พอเป็นในเนื้อเรื่องมันกลับดูดีขึ้นมากถึงมากที่สุด
การปรับบทให้หนังฮีโร่รายสัปดาห์เปลี่ยนเป็นแนวตลกปนดราม่าปัญห่าชีวิต ก็เป็นอะไรที่ดีและทำให้หนังลื่นไหลขึ้น ในลักษณะเดียวกับที่ Marvel ทำให้กับหนังซูเปอร์ฮีโร่จำนวนมากของพวกเขา
อีกส่วนที่สามารถชื่นชมได้ แต่อาจจะสังเกตกันยากไปสักหน่อยคือการพยายามรักษาเอกลักษณ์ที่เคยมีมาในฉบับซีรี่ส์ และเมื่อทำใส่ในฉบับภาพยนตร์มันก็ดูไม่เป็นการฝืนใส่จนทำให้เนื้อเรื่องเสียหายไปด้วย ทั้งนี้ขออนุญาตไม่สปอยล์แต่ให้ไปจับประเด็นนี้กันในโรงแทน
ประเด็นต่างๆ เหล่านี้ทำให้ Power Rangers กลายเป็นภาพยนตร์สดใหม่ที่ไม่ต้องพึ่งพิงใบบุญของขบวนการเซนไตอีกแล้ว ถ้าจะใช้บุญเก่าจริงๆ ก็เป็นการหยิบจับเนื้อหาชองฝั่งอเมริกากันเองด้วย
มีข้อดีแล้วก็ต้องมีข้อเสียอยู่ จุดเสียใหญ่หลวงของ Power Rangers ฉบับนี้คือการอารัมภบทที่ค่อนข้างยืดย้วยเกินไปเสียหน่อย ถ้าพูดง่ายๆ คือมันมีช่วงที่ผู้ชมแบบทีมงานของเรายังเผลอสัปหงกไป จนเราคิดว่าถ้ามีการตัดบางฉากทิ้งไป เนื้อเรื่องอาจจะพอดีๆ กว่านี้ อีกจุดที่เสียดายก็จะเป็นฉากแอคชั่นที่ยังไม่ถึงพริกถึงขิงเท่าไหร่ กับการแปลงร่างของตัวละครที่พกพาอาวุธกันมาไม่เต็มไม้เต็มมือแบบเซนไตต้นฉบับ
ข้อด้อยทั้งหลายก็ยังพอให้อภัยได้ด้วยเหตุที่ว่าฉากที่ตามมาในช่วงท้ายของหนังที่จัดเต็มทุกสิ่งอย่างตามที่ปูมาไว้ตอนต้น แถมยังทิ้งท้ายจนเราต้องลุ้นแรงๆ ว่า ภาคต่อของภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาเมื่อไหร่ ซึ่งบางทีเราอาจจะเป็นฝ่ายที่ต้องหวาดกลัวทีมงานสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้แทนก็ได้ เพราะพวกเขาเคยให้สัมภาษณ์ว่าพวกเขามีแผนผลิตภาพยนตร์ชุดนี้มากถึง 7 ภาค
Power Rangers ฮีโร่ทีมมหากาฬ ถือว่าเดินก้าวแรกออกไปอย่างดี ถึงจะมีจุดกระท่อนกระแท่นไปบ้างแต่ก็ไม่ใช่จุดที่ทำให้เราไม่อยากตีตั๋วดูหนังเรื่องนี้ แถมหนังยังต้อนรับทั้งแฟนเซนไตดั้งเดิม แฟนเรนเจอร์ดั้งเดิม และแฟนใหม่ที่ไม่เคยดูมาก่อน และเมื่อดูหนังจบ เชื่อว่าทุกคนก็อยากจะลองเปลงร่างเป็นเรนเจอร์ต่อสู้กับเหล่าร้ายแน่นอน
Leave a Reply