เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาทางทีมงานของภาพยนตร์ไลฟ์แอคชั่นทั้สร้างมาจากมังงะแนวดราม่าย้อนยุคเรื่อง ฤทธิ์ดาบไร้ปรานี (Blade of the Immortal) ผลงานของอาจารย์ Hiroaki Samura ได้ประกาศว่าจะเปิดตัวภาพยนตร์ในช่วงวันหยุดยาวฤดูใบผลิปีหน้า ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่สิ้นเดือนเมษายนไปจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม การถ่ายทำทั้งหมดของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ถ่ายทำกันในกรุงโตเกียวตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนจนถึงต้นเดือนมกราคม
Takuya Kimura ได้รับบทเป็นตัวเอกที่มีชื่อว่า “Manji” ซามูไรต้องสาปที่ทำให้ร่างกายเป็นนอมตะ โดยมังงะเรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการออกเดินทางของ Manji ที่รับหน้าที่เป็น yōjinbō (บอดี้การ์ด) ของ Rin สาวน้อยผู้ให้คำมั่นสัญญาจะล้างแค้นกลุ่มนักดาบที่ฆ่าพ่อแม่ของเธอ ซึ่งการเดินทางในการแก้แค้นนั้นจะเป็นยังไงต่อไปพวกเขาจะแก้แค้นได้หรือไม่?
ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ Takashi Miike รับหน้าที่ในการกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้
ผ่านมาแล้วนับทศวรรษที่ Kimura ได้รับบทในภาพยนตร์ดราม่าย้อนยุค (จากผลงานล่าสุดเรื่อง Love and Honor ซึ่งกำกับโดย Yōji Yamada ตั้งแต่ปี 2006) เขาได้กล่าวว่าโดยส่วนตัวแล้วเขาชอบการนำเสนอมังงะเรื่องนี้ และบทภาพยนตร์ได้ทำให้เห็นถึงธีมของเรื่องที่มีความขัดแย้งกันด้วยอย่าง “ฉันจะไม่ตาย” และ “ฉันตายไม่ได้” ส่วน Miike ได้กล่าวว่าส่วนตัวนั้นได้เลือก Kimura ซุปเปอร์สตาร์ที่ผ่านมาตั้งแต่สมัย Showa ถึงช่วง Heisei ในฐานะ “สมาชิกในโรงเรียนสอนต่อสู้สไตล์ Ittō-ryū ที่ชื่อว่า Miike Gang ที่แข็งแรงที่สุดในโลก ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของเรา”
อย่างไรก็ตามถ้าเวอร์ชั่นไลฟ์แอคชั่นได้สร้างตามเนื้อเรื่องดั้งเดิมในขณะที่เพิ่มความตื่นเต้นแบบภาพยนตร์เข้าไป อ.Samura จะมีความสุขมาก นอกจากนี้ยังมีนักแสดงท่านอื่นๆ และทีมงานที่มีความสามารถเข้ามาช่วยสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ เขาตั้งตารอการเกิดใหม่ของ Blade of the Immortal ฤทธิ์ดาบไร้ปรานี อย่างใจจดใจจ่อ
ด้านผู้กำกับ Miike เองก็มีผลงานภาพยนตร์ไลฟ์แอคชั่นหลายเรื่องเช่นกันอาทิ Ichi the Killer ฮีโร่หัวกลับ, Phoenix Wright: Ace Attorney, Yatterman, As the Gods Will เกมเทวดา, Crows เรียกเขาว่าอีกา และ Mogura no Uta
Samura ได้เปิดตัวมังงะเรื่อง Blade of the Immortal ฤทธิ์ดาบไร้ปรานีลงนิตยาสารรายเดือน Afternoon ค่าย Kodansha ในเดือนธันวาคมปี 1993 และซีรีส์เรื่องนี้จบลงในปี 2012 มังงะเรื่องนี้ออกฉบับรวมเล่มทั้งหมด 30 เล่มจบ ทำออกมาทั้งสิ้น 5 ล้านเล่ม และมีการตีพิมพ์ถึง 22 ประเทศ และเมืองต่างๆ นอกจากนี้ยังได้รับรางวัล Excellence Prize ในหมวดของมังงะอันดับ 1 ในงาน Japan Media Arts Festival Awards เมื่อปี 1997 และชนะการประกวด Eisner Award สำหรับรางวัล Best U.S. Edition of Foreign Material เมื่อปี 2000 ตั้งแต่เรื่อง Blade of the Immortal ฤทธิ์ดาบไร้ปรานีจบ Samura ได้ตีพิมพ์มังงะอิงประวัติศาสตร์เรื่อง Harukaze no Snegurochka (The Spring Breeze Snow Maiden) และมังงะโรแมนติกเรื่อง Nami yo Kiite Kure (Waves, Listen to Me)
ที่มา: Comic Natalie