คุณ Ogata Naohiro ผู้จัดการทั่วไปของแผนกกันดั้มของทาง Bandai Namco Filmworks ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Mantan Web ที่เพิ่งตีพิมพ์บทสัมภาษณ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ในครั้งนี้เขาได้กล่าวว่าทางบริษัทยังคงสร้าง ‘จักรวาลคู่ขนาน’ (อย่างเช่น Gundam SEED, Gundam The Witch From Mercury) อย่างเนื่องไปจนถึง 2029 ซึ่งเป็นปีครบรอบ 50 ปี ของเฟรนไชส์กันดั้ม เพียงแค่ ตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปี 2024 ที่ผ่านมา ทางทีมงานได้มาโฟกัสการสร้างผลงานที่อยู่ในยุคศักราชอวกาศ
คุณ Ogata ยังได้กล่าวด้วยว่าภาคที่สองของภาพยนตร์ Mobile Suit Gundam Hathaway’s Flash ยังอยู่ในขั้นตอนการสร้าง และมีการกล่าวว่าได้มีการนำเอา Unreal Engine มาร่วมใช้ในงานสร้างของภาพยนตร์ภาคต่ออีกด้วย
ในช่วงท้ายของบทสัมภาษณ์ยังได้กล่าวถึงการเลือกว่าจะสร้างงานเป็น 3D กับ 2D ในโปรเจคท์ใดของกันดั้ม ทาง คุณ Ogata กล่าวว่า การที่ Mobile Suit Gundam: Requiem for Vengeance เป็นผลงาน 3D ทั้งหมด ไม่ได้แปลว่า ฉายโมบิลสูทของภาพยนตร์ Mobile Suit Gundam Hathaway’s Flash ภาคต่อจะถูกสร้างในลักษณะเดียวกัน นั่นเพราะ Requiem for Vengeance ถูกสร้างขึ้นมาเนื่องจากคุณลักษณะพิเศษที่สามารถสร้างได้บน Unreal Engine เท่านั้น ส่วนงานอนิเมชั่น 2D ก็โดนสร้างมาในอีกลักษณะเฉพาะอีกอย่างหนึ่ง ดังนั้นทางบริษัทจะยังพัฒนาความสามารถของงาน 2D ในการทำอนิเมชั่นหุ่นยนต์ผสมดราม่าระหว่างมนุษย์ต่อไป
คุณ Ogata เคยให้สัมภาษณ์กับทาง 47News เอาไว้ว่า จะมีผลงานกันดั้มชิ้นใหญ่ออกมาให้ติดตามกันทุกปี ตั้งแต่ช่วงปี 2025 จนถึงปี 2029 อาทิ กันดั้มฉบับฮอลลีวูดที่ยังอยู่ในขั้นตอนการสร้าง และคุณ Ogata คาดหวังที่จะให้ผู้ชมจากทั่วโลกได้มีโอกาสติดตามกันดั้มจากผู้สร้างหลากหลายมุมมองในอนาคต
Source: Mainichi Shimbun’s Mantan Web