เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทางเว็บไซต์ของภาพยนตร์อนิเมะ Digimon Adventure tri. ที่มีการวางแผนสร้างไว้ทั้งหมด 6 ภาค ได้เผยเรื่องราวการผจญภัยครั้งใหม่ของ Digimon Adventure tri. Sōshitsu (Loss) ซึ่งเป็นภาพยนตร์ภาคที่ 4 ออกมาให้แฟนๆ ได้ตามชมต่อแล้วด้วย
[หมายเหตุ: ภาพด้านล่างจะมีการเปิดเผยเนื้อหาของภาพยนตร์ก่อนหน้านี้ทั้ง 3 ภาค]
Meicoomon ผู้โศกเศร้า ได้ปรากฏตัวและหายไปอีกครั้ง ด้วยเหตุผลบางทำให้เธอยังหลงเหลือเศษเสี้ยวความทรงจำบางอย่าง และกำลังออกตามหา Meiko อยู่ จนเมื่อกลุ่มของ Taichi ได้พบเจอกับ Meicoomon ก็ได้ตั้งใจเดินทางทั่ว Digital World เพื่อช่วยเหลือเธอ แต่ชายที่มาพร้อมกับ Dark Masters ได้มาขัดขวางพวกเขาเอาไว้
ขณะเดียวกันในโลกแห่งความเป็นจริง Nishijima ได้ข่าวว่า Himekawa ได้หายตัวไป เมื่อได้ตามสืบหาตัวเขาได้รู้ถึงเป้าหมายที่อยู่เบื้องหลังที่เธอได้ทำไปทั้งหมดจนถึงตอนนี้
ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นวันที่ 25 กุมภาพันธ์ปีหน้า
Crunchyroll ได้เริ่มฉาย Digimon Adventure tri. Kokuhaku ซึ่งเป็นภาพยนตร์ภาคที่ 3 วันเดียวกับการฉายในญี่ปุ่น โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ฉายในญี่ปุ่นเป็นระยะเวลาเพียง 3 สัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา และสามารถจ่ายเพื่อดูผ่านทางออนไลน์ที่ญี่ปุ่นได้ในวันเดียวกัน ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถทำรายได้ได้ถึง 120 ล้านเยน (หรือประมาณ 40 ล้านบาท) และจำหน่ายตัวได้ทั้งหมด 78,452 ใบในระยะเวลาที่มีการจัดฉายภาพยนตร์เรื่องนี้
Digimon Adventure tri.- Chapter 1: Reunion ทำรายได้ถึง 230 ล้านเยน (หรือประมาณ 80 ล้านบาท) หลังจากที่มีการเปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และ Adventure tri.- Chapter 2: Determination ทำรายได้ถึง 160 ล้านเยน (หรือประมาณ 56 ล้านบาท) หลังจากเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา ส่วนทาง Crunchyroll ได้ออกอากาศภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่องนี้ในวันและเวลาเดียวกันกับการจัดฉายในญี่ปุ่น
โปรเจคนี้ถือเป็นการฉลองครบรอบ 15 ปีของ Digimon Adventure (ตั้งแต่การเริ่มฉายซีรีส์เป็นครั้งแรก) โดยจะทำออกมาให้ได้ติดตามกันทั้งหมด 6 ภาคด้วยกัน โดยภาพยนตร์เรื่องแรกนั้นได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ของอเมริกาไปเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมาโดยมีการพากย์เสียงภาษาอังกฤษลงไป ซึ่งก็ได้ทั้งนักพากย์ใหม่ และนักพากย์เก่าที่กลับมาร่วมงานอีกครั้ง แถมตั้งแต่วันที่ 29 กันยายนเป็นต้นมาฉบับเสียงพากย์ภาษาอังกฤษยังได้เพิ่มรอบฉายมากขึ้นอีกด้วย
ที่มา: Anime! Anime! (Katsunori Takahashi)