Inoue Takehiko พูดถึงความเป็นไปได้ของภาคต่อ ภาพยนตร์ The First Slam Dunk

Share

อาจารย์ Inoue Takehiko ผู้วาดมังงะ Slam Dunk และ ผู้กำกับภาพยนตร์อนิเมะ The First Slam Dunk ได้เข้าร่วมในงานอีเวนท์ ‘COURT SIDE in THEATER FINAL’ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ปี 2023 และได้กล่าวไว้ในงานดังกล่าวเกี่ยวกับการทำงานกำกับภาพยนตร์, ความพยายามที่เขาทุ่มเทไปในงานสร้าง, และความเป็นไปได้ของการสร้างภาคต่อ

ผู้กำกับวัย 56 ปี ได้กล่าวไว้ว่า ‘ถ้าผมกล่าวว่าจะมี (ภาคต่อ) หรือบอกว่าไม่มี มันก็จะเป็นการพูดผูกมัดผมใช่ไหมครับ? สมมติถ้าผมบอกว่ามี แล้วดันไม่มีภาคต่อออกมา มันก็คงดูไม่ดี แต่ถ้าผมบอกว่าไม่มี จากนั้นผมดันคิดอยากจะวาดต่อ มันก็กลายเป็นทำต่อไม่ได้ เพราะฉะนั้นผมยังไม่กล่าวอะไรเกี่ยวกับประเด็นนี้ครับ’

อาจารย์ Inoue ยังได้กล่าวถึงขั้นตอนในการสร้างภาพยนตร์ฮิตเรื่องนี้และการทำงานอย่างจริงจังเพื่อให้ภาพยนตร์เสร็จสมบูรณ์

‘ก่อนที่ภาพยนตร์จะออกฉาย ผมแค่อยากจะทำมันให้เสร็จ ผมแค่อยากทำทุกอย่างเพื่อให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ดีขึ้นเท่าที่ทำได้แม้จะเล็กน้อยก็ตาม ทีมงานสร้างเองก็อุดมไปด้วยคนที่ทุ่มเททุกอย่างในการนี้ด้วยครับ’ อาจารย์ Inoue กล่าว

The First Slam Dunk ถือว่าเป็นการกำกับภาพยนตร์ครั้งแรกของอาจารย์ Inoue Takehiko และถ้าอ้างอิงจากบทสัมภาษณ์ของ คุณ Koike Ryuuta โปรดิวเซอร์ดนตรีของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ให้สัมภาษณ์กับ Anime News Network ระบุไว้ว่าเจตจำนงค์ของทีมงานภาพยนตร์คือการสร้างผลงานที่เหนือกว่าต้นฉบับ แต่สำหรับตัวอาจารย์ Inoue นั้นเห็นว่า การสร้างภาพยนตร์ให้เสร็จ เป็นแค่ครึ่งหนึ่งของการทำงานเท่านั้น

‘แม้ว่าภาพยนตร์จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว ภาพยนตร์ก็จะไม่มีคุณค่าใดหากไม่มีผู้ชมที่มาทำการรับชม ภาพยนตร์จะสมบูรณ์จริง ๆ เมื่อมีคนดูมันแล้ว – เมื่อผลงานได้รับการถ่ายทอดไปถึงผู้ที่รับชมแต่ละคน เรื่องนี้ถือเป้นสัจจะในฝั่งมังงะด้วย ดังนั้นผมคาดว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นครับ’

อ้างอิงจากข้อมูลจนถึงวันที่ 23 กรกฎาคม ปี 2023 ตัวภาพยนตร์ทำยอดขายตั๋วได้ราว 10,330,000 ใบ และทำรายได้ประมาณ 14,900,403,870 เยน จนกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลอันดับที่ 14 ของประเทศญี่ปุ่น และเป็นภาพยนตร์อนิเมะที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลอันดับที่ 8 ของประเทศญี่ปุ่น

ภาพยนตร์ The First Slam Dunk ประกาศฉายในโรงภาพยนตร์รอบสุดท้ายที่ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงวันที่ 25-31 สิงหาคม ปี 2023

Source: Cinema Today