สงครามการค้าระหว่างญี่ปุ่น กับ เกาหลีใต้ รอบใหม่ ที่นำพาให้สู่การแบนสินค้าญี่ปุ่นในประเทศเกาหลีใต้ ส่งผลกระทบลามมาถึงภาพยนตร์อนิเมะจากญี่ปุ่นแล้วเช่นกัน
ภาพยนตร์อนิเมะ Eiga Oshiri Tantei: Curry Naru Jiken ได้เข้าฉายในประเทศเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2019 ที่ผ่านมา เปิดตัวด้วยยอดขายตั๋วที่ต่ำกว่าที่คาดการว่า ตัวภาพยนตร์นั้นดัดแปลงมาจากหนังสือภาพสำหรับเด็กที่แต่งโดยนักเขียน Troll ยังคงทำยอดขายหนังสือได้ดีในเกาหลีใตจ้ แต่สำหรับภาพยนตร์อนิเมะที่เข้าฉายในช่วงสงครามการค้าเริ่มคุกรุ่นนั้นกลับถูกรีวิวจากผู้ชมถล่มให้คะแนนต่ำพร้อมความเห็นที่เชิญชวนไม่ให้คนไปดูภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว
ทางเว็บไซต์ Box Office Mojo ได้ระบุว่าภาพยนตร์ Eiga Oshiri Tantei: Curry Naru Jiken ทำรายได้เปิดตัวในอันดับที 5 ของ Box Office ประเทศเกาหลีใต้ในช่วงวันที่ 12-14 กรกฎาคม 2019 ด้วยยอดรายได้ 640,708 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ ในการฉาย 561 จอ ก่อนที่อันดับจะลดลงในสัปดาห์อยู่ในอันดับที่ 10 ด้วยการฉายเพียง 203 จอ และยอดรายได้ลดลงกว่า 81.3%
บริษัทที่ดูแลการโปรโมทภาพยนตร์ ‘ยอดนักสืบจิ๋ว โคนันเดอะมูฟวี่ 23 : ศึกชิงอัญมณีสีคราม’ ในเกาหลีใต้ได้ให้สัมภาษณ์กับ The Hankyoreh หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ใน ‘ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก’ ก่อนที่ภาพยนตร์จะออกฉายเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2019 ที่ผ่านมา โดยตัวแทนของทางบริษัทให้สัมภาษณ์ว่า ‘มีความเห็นส่งมาทางเว็บบอร์ดของเราที่ระบุว่า ชาวเกาหลีใต้ไม่ควรไปรับชมยอดนักสืบจิ๋วโคนัน เพราะเป็นอนิเมะจากญี่ปุ่น เรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกกลุ้มใจและทำให้เรากังวลในการโปรโมทภาพยนตร์ และพวกเราคงได้แต่ลุ้นว่าจะเป็นอย่างไรเมื่อภาพยนตร์ออกฉายไปแล้ว’
ข้อมูลจากทางเว็บไซต์ Box Office Mojo ระบุว่า ภาพยนตร์ยอดนักสืบจิ๋ว โคนันเดอะมูฟวี่ 23 : ศึกชิงอัญมณีสีคราม เปิดตัวในอันดับที่ 19 ของ Box Office ประเทศเกาหลีใต้ในช่วงวันที่ 19-21 กรกฎาคม 2019 ด้วยยอดขาย 22,813 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ และทางเว็บไซต์ของคณะกรรมการภาพยนตร์เกาหลีใต้ (Korean Film Council) ได้ระบุว่าภาพยนตร์ยอดนักสืบจิ๋วโคนันภาคดังกล่าวทำรายได้ในช่วงวันที่ 24-26 กรกฎาคม 2019 ด้วยยอดรายได้ 592,461 และมีผู้ซื้อตั๋วเข้าชม 83,769 ใบ จากการฉาย 576 จอ ทำรายได้ทั้งหมดในเกาหลีใต้ไปแล้วราว 1,369,664 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อเทียบกับภาพยนตร์ภาคก่อนหน้า ยอดนักสืบจิ๋วโคนันเดอะมูฟวี่ 22: ปฎิบัติการสายลับเดอะซีโร่ เปิดตัวในสัปดาห์แรกในอันดับ 6 ของ Box Office ประเทศเกาหลีใต้ ด้วยการทำรายได้ 1,904,278 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ
สงครามการค้าระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ รอบล่าสุดนั้นเริ่มขึ้นแบบชัดเจนเมื่อทางรัฐบาลญี่ปุ่นจะเริ่มประกาศเพิ่มข้อกำหนดในการส่งออกวัตถุดิบเคมีภัณฑ์ที่ใช้ในการผลิตสินค้าเทคโนโลยีระดับสูงเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2019 โดยข้อกำหนดใหม่จะทำให้การส่งสินค้าที่จำเป็นในการสร้างสมาร์ทโฟนนั้ต้องใช้เวลาในการส่งออกนานถึงสามเดือน และทางการญี่ปุ่นก็มีแผนที่นำประเทศเกาหลีใต้ออกจากรายชื่อ ‘White List’ หรือประเทศคู่ค้าที่ได้รับการผ่อนปรนเงื่อนไขการนำเข้าและส่งออก ที่เกาหลีใต้ได้รับมาตั้งแต่ปี 2004
สงครามการค้าครั้งนี้เชื่อว่าปะทุขึ้นมาจากการที่ประเทศญี่ปุ่นกล่าวหาว่าประเทศเกาหลีใต้ไม่ค่อยดูแลควบคุมไฮโดรเจนฟลูออไรด์ ที่สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาอาวุธ และส่งผลให้เกาหลีเหนือสามารถหาสารเคมีดังกล่าวไปใช้งานได้ แต่ทางประเทศเกาหลีใต้ปฏิเสธเรื่องนี้
และนักวิเคราะห์หลายสำนักก็เชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้มีผลก่อนหน้ามาจากปมความขัดแย้งที่ทางเกาหลีใต้พยายามให้บริษัทอุตสาหกรรมเจ้าใหญ่ในญี่ปุ่นรับผิดชอบกับเหตุการณ์เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่สอง ที่ฝ่ายญี่ปุ่นนั้นระบุว่ามีการเยียวยาไปแล้ว แต่ทางเกาหลีใต้กลับมองว่ายังไม่เพียงพอ
เหตุการณ์ต่างๆ จากสงครามการค้าระลอกใหม่ ทำให้ชาวเกาหลีใต้ส่วนหนึ่งเริ่มทำการบอคอทสินค้าจากประเทศญี่ปุ่น อาทิ เสื้อผ้าจาก Uniqlo, ร้านสะดวกซื้อแบรนด์ญี่ปุ่น, รถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่น รวมไปถึงทัวร์ที่จะเดินทางไปญี่ปุ่นที่ตอนนี้ได้รับผลกระทบชัดเจนจนมีนักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้เดินทางไปประเทศญี่ปุ่นน้อยลง
Source: The Washington Post (Tom Le), Korea JoonAng Daily (Park Kwang-Soo, Kim Young-Joo), The Hankyoreh (Shin Min-jung, Yu Sun-hui) via Jonathan Cheng’s Twitter account, The Standard
Leave a Reply