เรื่องราวซวยๆ ของนายตำรวจประจำจังหวัดวาคายามะผู้นี้ เกิดขึ้นในช่วงประมาณ 2 ทุ่ม วันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่นายนี้กำลังปฏิบัติหน้าที่อารักขานายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในรถตำรวจ มุ่งไปตามถนนสายหลัก ทันใดนั้นได้มีรถขับโผล่ออกมาจากข้างทาง ในความพยายามที่จะหยุดรถคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้เอี้ยวตัวส่วนบนของร่างกายของเขาออกไปนอกหน้าต่างรถเพื่อส่งสัญญาณให้รถคันดังกล่าวหยุดรอ แต่กลับบังเอิญทำอาวุธประจำกายของเขาหล่นลงไปบนท้องถนนเสียอย่างช่วยไม่ได้ โดยเหตุเกิดจากการที่ตัวล๊อกปืนพกหลุดออกนั่นเอง
▼ ผู้ประกาศข่าวได้แสดงตำแหน่งที่อาวุธปืนหล่นหายไป
เมื่อเจ้าหน้าที่สังเกตว่าปืนประจำกายได้หายไป ทางตำรวจได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 50 นาย ลงพื้นที่ค้นหาตามถนนโดยละเอียด แต่อย่างไรก็ตามได้มีพลเมืองดีพบเข้าและนำส่งสถานีตำรวจในบริเวณใกล้เคียงเรียบร้อยแล้ว เป็นเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้กับเจ้าหน้าที่ที่มีอาวุธประจำกายและจำเป็นที่จะต้องอยู่บนพาหนะที่เคลื่อนใหวตลอดเวลา แถมยังทำให้ผู้คนแตกตื่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
“เรื่องบ้าๆแบบนี้เกิดขึ้นในวาคายามะเฉยเลย!”
“น่ากลัวอ่ะ ถ้าคนโรคจิตเก็บได้จะเป็นไง?”
“โชคดีที่ไม่โดนเอาไปก่อคดีอะไรซะก่อน”
“ถ้าเป็นผม ผมไม่บอกใครหรอก ว่าเผลอทำตกอ่ะ”
“สงสัยเจ้าหน้าที่คนนี้ต้องลาออกเลยมั้งเนี่ย”
“ทีแรกก็คิดว่าตั้งใจ แต่บังเอิญทำปืนหล่นหายเนี่ยนะ?!”
อย่างไรก็ตามเหตุผลที่เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้ชะโงกออกไปนอกหน้าต่างก็เพื่อยับยั้งรถคันดังกล่าว และเป็นส่วนหนึ่งของการกระทำเพื่อที่จะปกป้องนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ที่อยู่ระหว่างการเดินทางรณรงค์นโยบายในเมือง ซึ่งเป็นเรี่องแปลกที่ไม่มีความเห็นใดดูเหมือนจะพูดถึงความจริงที่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นั้นมาจากการตั้งใจที่จะปกป้องนายกรัฐมนตรีนั่นเอง
ส่วนชะตากรรมของเจ้าหน้าที่ผู้โชคร้ายคนดังกล่าวยังไม่ได้รับรายงานเพิ่มเติม แต่ดูแล้วท่าจะจบไม่สวยอย่างแน่นอนสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ยังคงเป็นเรื่องดีที่เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ที่ปลอดภัยในตัวเมืองของประเทศที่เป็นที่รู้จักกันดีว่ามีพลเมืองที่ซื่อสัตย์อันดับต้นๆ ของโลก และมันโชคดีอย่างยิ่งที่เกิดขึ้นในเวลากลางคืนที่เด็ก ๆ ส่วนมากจะอยู่ที่บ้านกับครอบครัวกันหมดแล้ว แต่อย่างน้อยก็ได้มีบทเรียนว่าไม่ควรทำอาวุธปืนบรรจุกระสุนหล่นตามท้องถนน ถึงแม้ว่ามันไม่ควรเลยที่จะมีบทเรียนบ้าๆ แบบนี้ก็เถอะ..
ที่มา: TV Asahi News, Hachima Kiko,
ภาพประกอบ: Pakutaso
Leave a Reply