ฤดูร้อนญี่ปุ่นปีนี้สุดโหด จนชาวญี่ปุ่นทำอาหารสุกในรถได้แบบเมืองไทยแล้ว!

Share

ไม่ใช่แค่ที่บ้านเราเท่านั้นที่ร้อนตับแตก เพราะประเทศญี่ปุ่นเอง พอเข้าหน้าร้อนก็ร้อนสุดใจ (สำหรับพวกเขา) เช่นกัน ซึ่งตอนนี้ อุณหภูมิในประเทศญี่ปุ่น เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ระดับ 30 องศาเซลเซียส (หรือ 86 องศาฟาเรนไฮน์) ซึ่งบางทีก็ดีดไปสูงถึง 40 องศาเซลเซียสก็มี (หรือ 104 องศาฟาเรนไฮน์) ซึ่งว่าตามตรงแล้ว สำหรับประเทศญี่ปุ่นนั้นปีนี้ร้อนกว่าปีก่อนๆ มากมาย

และเมื่ออากาศร้อนถึงขนาดนี้ ในรถที่จอดทิ้งไว้กลางแดดก็ร้อนนรกแตกเลยทีเดียว ซึ่งจากข้อมูลของเว็บไซด์พยากรอากาศของประเทศญี่ปุ่น WeatherNews.jp ได้กล่าวเอาไว้ว่า ในขณะที่อุณหภูมิภายนอกตัวรถอยู่ที่ 35 องศาเซลเซียส (หรือ 95 องศาฟาเรนไฮน์) ภายในตัวรถเก๋งสีดำที่ปิดกระจกรถแน่นหนาและไม่ติดฟิล์มกรองแสง อาจมีอุณหภูมิดีดไปถึง 57 องศาเซลเซียส (หรือ 134 องศาฟาเรนไฮน์) ได้เลยทีเดียว ซึ่งจากสถิติสูงสุด เคยมีอุณหภูมิสูงถึง 79 องศาเซลเซียส (174 องศาฟาเรนไฮน์) มาแล้วด้วย

▼ ในวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา อุณหภูมิภายนอกตัวรถอยู่ที่ 41 องศาเซลเซียส
“ร้อนจนมือจะละลายไปกับพวงมาลัยแล้วโว้ย! ฤดูหนาวรีบมาสักทีสิฟะ!”

และไม่ต่างจากชาวไทยนัก เพราะเมื่อความร้อนระดับ 79 องศาเซลเซียสสามารถทำให้อาหารค่อยๆ สุกได้แบบนี้ พวกเขาก็จัดการทำอาหารกินในรถไปซะเลย

ชาวเนตรายหนึ่งในจังหวัดไซตามะ ตัดสินใจทอดแฮมบนหลังคารถโชว์ซะเลย ซึ่งในขณะนั้น อุณหภูมิปกติอยู่ที่ 35 องศาเซลเซียส ที่สามารถทำให้หลังคารถเก๋งสีดำร้อนพอจะทำหน้าที่แทนกระทะทอดแฮมให้สุกกรอบได้เลย

▼ “วันนี้รถฉันร้อนมาก ฉันเลยคิดเล่นๆ ว่าจะลองเอาแฮมมาทอดดู แล้วดันทอดได้จริงๆ ด้วย…”

เมื่อเป็นแบบนี้ก็สนุกชาวญี่ปุ่นสิ มีชาวเนตรายหนึ่ง ลองซื้อแผงไข่มาตั้งไว้ในรถดูตั้งแต่เช้า และพอตกกลางคืนก็พบว่าได้ไข่ออนเซ็นที่อยู่ในระดับสุกพอกินเป็นมื้อเย็น และมื้อเช้าของวันถัดไปได้เลย

แม้จะมีคนออกมาแย้งว่าการทำให้ไข่สุกกินด้วยวิธีนี้อาจทำให้อาหารเป็นพิษได้ แต่ก็มีคนแย้งว่าแบคทีเรียที่อยู่ในเปลือกไข่ไม่สามารถทนความร้อนมากกว่า 65 องศานานๆ ได้นะ

พูดง่ายๆ ก็คือ อากาศร้อนจนฆ่าแบคทีเรียในไข่ได้อ่ะ

▼ ชาวเนตรายนี้ แค่จอดรถไปซื้อของแปปเดียว เล่นเอาสติกเกอร์ละลายเลย

สำหรับผู้ใช้รถที่มีปัญหาอุณหภูมิในรถสูงเกินไป ก็มีวิธีแก้ปัญหาอยู่นะ เริ่มจากเปิดกระจกฝั่งคนขับก่อนสักแปปนึง จากนั้นก็เปิดประตูรถฝั่งคนขับทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จะทำให้ความร้อนในรถถูกอุณหภูมิปกติไล่ออกไปจนหมด จากนั้นก็ค่อยปิดประตูหน้าต่างแล้วเปิดแอร์ข้างในเพื่อให้รถเย็นลง

ที่มา: Otakom

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*