เมื่อปี 2013 ได้เกิดปรากฏการณ์ Frozen พีเวอร์ไม่มีใครเลยที่ไม่รู้จักกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่ทำให้เกิดกระแสการร้องเพลงโคพเวอร์ ลิปซิงก์เพลงประกอบภาพยนตร์ซึ่งเป็นเอกลักษณ์อย่าง “Lets it Go” แต่เมื่อเกิดข่าวฉาวเรื่องการจับกุมนักพากย์ชาวญี่ปุ่นที่มีการพัวพันกับยาเสพติดก็ได้ทำให้กระแสของภาพยนตร์เรื่องนี้ตกลงไป
แต่ในความเป็นจริงแล้วแฟนต่างตั้งต่อรอภาพยนตร์ภาคต่อของ Frozen 2 ที่ได้ออกฉายในญี่ปุ่นแล้ว นอกจากนี้ทางบริษัท Legs ได้ทำเมนูพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งมีร้านสองแห่งในโตเกียว และยังมีตามหัวเมืองต่างๆ อย่าง ฟูกูโอกะ, โอซาก้า, เกียวโต, นาโกย่า และซัปโปโร
เมนูต่างๆ จะประกอบไปด้วยตัวละครหลักของเรื่องทั้ง Anna, Elsa, Olaf และตัวละครใหม่ที่เพิ่งปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่องนี้ครั้งแรก ซึ่งเมนูอาหารที่สร้างขึ้นเหล่านี้มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น เมนูที่อ้างอิงมาจากตัวละคร Anna ประกอบไปด้วยชุดซุป และแซนวิช (ราคา 2,390 เยน หรือประมาณ 670 บาท) ซึ่งประกอบไปด้วยไก่ย่างพร้อมกับแซนวิชชีส และซุปมะเขือเทศร้อนๆ นอกจากนี้เราสามรถนำชามซุปที่ระลึกกลับบ้านได้ในราคาพิเศษเพียง 1,600 เยนเท่านั้น (ประมาณ 450 บาท)
ไม่ได้มีเพียงแค่อาหารเท่านั้น เมนูเครื่องดื่มทางร้านก็มีให้เราเลือกอีกมากมาย ทั้งเมนูเย็นฉ่ำ หรือเมนูร้อนแก้หนาว อย่างเช่น เมนูที่อ้างอิงมาจากตัวละคร Elsa มาพร้อมกับเครื่องดื่มเย็นฉ่ำ Refreshing Lemon Smoothie (น้ำมะนาว ปั่น) ราคา 990 เยน (ประมาณ 280 บาท) หรือ 1,690 เยน (ประมาณ 470 บาท) จะได้รับที่รองแก้วไปด้วย หรือเครื่องดื่มอุ่นๆ Warming Cheese Cake Milk Tea (ชานมชีสเค้กร้อน) ราคา 990 เยน (ประมาณ 280 เยน) หรือ 2,490 เยน (ประมาณ 700 บาท) จะได้รับแก้วเป็นที่ระลึก
นอกจากนี้ยังมีสินค้าที่ไม่เคยมีการวางจำหน่ายที่ไหนมาก่อนมีให้เราได้จับจ่ายกัน โดยมีสินค้ามากมายอย่าง ที่ประดับต้นคริสต์มาส, แม่เหล็ก, พวงกุญแจ, ถุงผ้า, กระดาษโพสต์อิท, เคสมือถือ และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย
เมื่อซื้อสินค้ามูลค่า 3,000 เยนขึ้นไป (ประมาณ 840 บาท) จะได้รับปากกาลูกลื่นรุ่นลิมิเต็ดฟรี 1 แท่ง และสำหรับใครที่ทำการจองโต๊ะอาหารล่วงหน้า และสั่งอาหารที่ร้านจะได้รับแผ่นรองจานซึ่งจะสุ่มแจก 1 ชิ้นฟรี โดยมีทั้งหมดสี่แบบสี่ลายให้ได้สะสมกัน ซึ่งหากใครต้องการของสะสมเหล่านี้หล่ะก็ต้องทำการจองล่วงหน้าไปก่อนเพื่อความคุ้มค่า
ร้าน OH MY CAFE Tokyo ตั้งอยู่ที่ Omotesando รวมถึง Kawara CAFE&DINING ที่โอซาก้าตรงสถานี Shinsaibashi นั้นจะมีจุดถ่ายภาพที่มี Anna และ Elsa ขนาดเท่าคนจริงให้ได้เก็บภาพเป็นที่ระลึกกัน นอกจากนี้ยังมีสติกเกอร์แจกฟรีให้ได้สะสมกัน ที่ร้านเหล่านี้น่าจะสร้างความเพลิดเพลิน และความสุขให้กับแฟนๆ รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ได้ไม่น้อยเลย
ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น คาเฟ่แต่ละแห่งจะมีการจัดกิจกรรม “Olaf in Holiday” ช่วงวันหยุดฤดูหนาวในวันที่ 20 ธันวาคม เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในครั้งนี้จะมีการจำหน่ายเมนูพิเศษที่อ้างอิงมาจากตัวละคร Olaf รวมถึงสินค้าสุดพิเศษให้ได้เลือกสะสมกัน เมื่อเราซื้อบัตรเข้างานจะได้รับบัตรอวยพรสำหรับวันหยุดสุดพิเศษนี้ฟรีมีจำนวนจำกัดช้าหมดอดนะ
เมนูเหล่านี้มีจำหน่ายแล้วที่คาเฟ่ Omotesando, Osaka, Nagoya และ Sapporo ส่วนร้านอื่นๆ มีการวางจำหน่ายแตกต่างกันดังนี้
- Tamagawa (Tokyo) เริ่มวางจำหน่ายวันที่ 29 พฤศจิกายน
- Fukuoka เริ่มวางจำหน่ายวันที่ 5 ธันวาคม
- Kyoto เริ่มวางจำหน่ายวันที่ 6 ธันวาคม
หากใครต้องการลิ้มลองเมนูพิเศษนี้รบกวนเช็คเวลาให้ดีดีเพราะแต่ละที่นั้นมีช่วงเวลาเมนูพิเศษที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ตอบลิงค์ด้านล่างได้เลย
- Oh My Cafe Tokyo Tokyu Plaza Omotesando (Tokyo) เริ่มวันที่ 15 พฤศจิกายน – 13 มกราคม
- Kawara Cafe & Dining Shinsaibashi (Osaka) เริ่มวันที่ 16 พฤศจิกายน – 13 มกราคม
- Kawara Cafe & Dining Nagoya Parco (Nagoya) เริ่มวันที่ 16 พฤศจิกายน – 19 มกราคม
- Cafe Interlude (Sapporo) เริ่มวันที่ 21 พฤศจิกายน – 19 มกราคม
- Kawara Cafe & Dining Kitte Hakata (Fukuoka) เริ่มวันที่ 5 ธันวาคม – 19 มกราคม
- Gelato Pique Cafe Tamagawa Takashimaya SC (Tokyo) เริ่มวันที่ 29 พฤศจิกายน – 26 มกราคม
- Gelato Pique Cafe Kyoto The Cube (Kyoto) เริ่มวันที่ 6 ธันวาคม – 2 กุมภาพันธ์
Leave a Reply