ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา มีเรื่องที่น่าเศร้าสำหรับคนรักแมวเนื่องจากมีการแพร่ระบาดของไวรัส Feline Parvovirus ณ Cat Café MoCHA สาขาโตเกียวหนึ่งในแฟรนไชส์ร้านคาเฟ่แมวชื่อดัง ในเบื้องต้นนั้นได้มีการตรวจพบการแพร่ระบาดของไวรัส Feline Parvovirus ที่ MoCHA สาขาทาจิคาวะงตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงโตเกียวและจากการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าวได้คร่าชีวิตประชากรแมวของร้านไป 7 ตัวจากทั้งหมด 25 ตัว
นอกเหนือจากแมว 7 ตัวที่ตายไปยังพบว่ามี 3 ตัวที่ได้รับเชื้อไวรัส ใน MoCHA สาขาทาจิคาวะโดยมีการแพร่เชื้อผ่านการอาเจียรและขับของเสีย จากการแพร่ระบาดดังกล่าวทำให้กว่า 15 สาขาทั่วประเทศของ Mocha ( 9 ใน 15 ของสาขาทั้งหมดตั้งอยู่ในโตเกียว) ต้องปิดตัวลงเป็นการชั่วคราวเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ที่ผ่านมา
ในวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา MoCHA ได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง ซึ่งในช่วงที่หยุดให้บริการนั้น ได้มีการตรวจสอบแมวทุกตัวทุกสาขาว่าติดไวรัสหรือไม่ ผลปรากฏว่าไม่มีแมวตัวใดของ MoCHA ติดไวรัสนอกเหนือจาก 3 ตัว ของสาขาทาจิคาวะที่ขณะนี้ทั้ง 3 ตัวดังกล่าวนั้นอยู่ในอาการปลอดภัยแล้ว และในขณะเดียวกันร้าน MoCHA สาขาทาจิคาวะได้มีการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโดยผู้เชี่ยวชาญ รวมไปถึงการเปลี่ยนพรม และพื้นผิวที่แมวสัมผัสของ MoCHA สาขาดังกล่าว
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น KI Corporation (บริษัทแม่ของ MoCHA) ได้ชี้แจงว่าโดยปกติแล้วแมวทั้งหมดนั้นได้มีการฉีดวัคซีนป้องกัน Feline Parvovirus 2 ครั้งสำหรับลูกแมวอายุ 2-4 เดือน และ 1 ครั้งสำหรับแมวที่โตเต็มวัย ในทุกๆ ปี ตามคำแนะนำจากสัตวแพทย์ที่มีใบอนุญาต แต่จากการแพร่ระบาดของ Feline parvovirus ดังกล่าว บริษัทจะเปลี่ยนมาใช้โปรโตคอลที่เข้มงวดขึ้นจาก World Small Animal Veterinary Association แทน
ในขณะที่มนุษย์ไม่สามารถติดเชื้อ Feline Parvovirus ได้ แต่เชื้อไวรัสยังคงสามารถแพร่กระจายผ่านทางมนุษย์ที่เคยสัมผัสกับอาเจียรหรืออนุภาคมูลสัตว์แม้ในปริมาณน้อยได้ จึงยังคงมีความเป็นไปได้ที่ลูกค้าบางคนของ MoCHA ในสาขาทาจิคาวะอาจเป็นพาหะนำไวรัสไปยังแมวในบ้านของตนเองโดยไม่ได้ตั้งใจหลังจากใช้บริการที่ MoCHA ด้วยเหตุนี้ KI Corporation ได้กล่าวว่าจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ของแมวของลูกค้าที่มีการติดเชื้อ Feline Parvovirus อีกด้วย
Leave a Reply