invalidname ถาม :
เกิดอะไรขึ้นกับ Daisuki กันแน่ ? ทั้งๆ ที่ญี่ปุ่นที่เป็นเจ้าของสิทธิ์เข้ามาทำงานด้วย มันก็ควรจะได้เปรียบกว่าบริการเจ้าอื่นอย่าง Crunchyroll ที่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์โดยธรรมชาติอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ?
Answerman ตอบ :
เว็บไซต์ Daisuki.net เป็นเว็บไซต์รับชมอนิเมะออนไลน์ที่ถูกก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มบริษัทเกี่ยวกับธุรกิจอนิเมะในช่วงไม่นานนักราวปี 2013 และเพิ่งมีการประกาศไปเมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้ว่า เว็บไซต์ดังกล่าวจะทำการปิดตัวลง ในการประกาศผ่านทางเว็บไซต์ทางการได้มีการระบุกำหนดการปิดตัว ซึ่ววงเว็บจะปิดอย่างเป็นทางการในปลายปี 2017 นี้
ตอนแรก Daisuki.net เป็นการร่วมกันก่อตั้งขึ้นของเอเจนซี่โฆษณาอย่าง Asatsu-DK, Dentsu และ Nihon Ad Systems กับ บริษัทอนิเมะอย่าง Toei Animation, Aniplex, Sunrise, TMS Entertainment ก่อนที่ทาง Anime Consortium Japan จะเข้ามาเทคโอเวอร์ ซึ่งกลุ่มคนดังกล่าวนั้นเป็นการรวมตัวกันของบริษัทของเล่นและสื่อต่างๆ อย่าง Bandai Namco Holdings, สำนักพิมพ์การ์ตูนเจ้าใหญ่ที่ผันตัวเป็นผู้ผลิตสื่ออย่าง Shueisha, Shogakukan, Kodansha และ Kadokawa, บริษัทผลิตของสะสม ทั้งฟิกเกอร์และการ์ดเกม Good Smile Company และ Bushiroad, บริษัทผู้ผลิตอนิเมะ Toei Animation กับกองทุน Cool Japan ของรัฐบาลญี่ปุ่น แล้วก็เป็นเดือนมีนาคมปี 2017 นี่เองที่ ทาง Bandai Namco ตัดสินใจซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของ Anime Consortium Japan
ถ้าอิงจากชื่อผู้เป็นเจ้าของ Daisuki.net น่าจะประสบความสำเร็จได้ง่ายๆ แรงหนุนก็ดี แถมแต่ละเจ้ายังมีสินค้าในมือตัวเองเพียบ ทำยังไงก็น่าจะดังปังเปรี้ยง ทว่าในตอนเปิดตัวนั้นตลาดอนิเมะออนไลน์ก็เป็นอะไรที่ไม่เหมือนกับตลาดอื่น แถมยังมี Crunchyroll ครองตลาดอเมริกาและมีเว็บไซต์หรือบริการอื่นๆ ยึดหัวหาดในประเทศอื่นๆ การเปิดตัวของ Daisuki.net ในปี 2014 จึง ‘ไม่มีเสน่ห์มากพอสำหรับผู้ชม’ ไม่ว่าจะตลาดฝั่งโลกตะวันตกหรือโลกตะวันตกก็ตามที และถึงจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการในภายหลังแต่มันก็ไม่สามารถดึงดูดใจผู้ชมอนิเมะในตลาดปัจจุบันนี้ได้
ปัญหาใหญ่ที่สุดของตัว Daisuki.net ก็คงไม่พ้น อินเตอร์เฟซที่แทบจะไม่ใกล้เคียงกับระบบของเจ้าอื่นเจ้าใดเลย แฟนการ์ตูนที่เคยใช้งานล้วนแล้วแต่ติงเรื่องนี้มาก่อน รวมกับปัญหาความเสถียรของการรับชม, ไม่มีไฟล์ HD แม้ว่าจะเป็นเว็บไซต์ส่งตรงจากทางผู้ผลิตเอง และปัญหาในการรับชมอีกจำนวนมากที่ทำให้เว็บไซต์ ‘ไม่คลิก’ กับคนดูจากปัญหาการใช้งานที่กล่าวถึงแบบนี้
Daisuki.net ยังไม่สามารถแข่งขันเรื่องการทุ่งบลงไปให้มีอนิเมะฉาย Exclusive เฉพาะที่ ถ้าเทียบกับบริการรับชมออนไลน์เจ้าอื่น ทั้ง Crunchyroll, Funimation รวมไปถึงเจ้าที่มาตีตลาดทีหลังอย่าง Amazon และ Netflix แม้ว่าบริษัทที่เป็นเจ้าของร่วมของทาง Daisuki จะเชื่อมั่นว่าบริการรับชมออนไลน์ที่ทำกันเองจะประสบความสำเร็จ แต่เป้าหมายหลักของพวกเขาก็ยังคงเป็นการขายสิทธิ์ผลงานใหม่ๆ ที่ถูกผลิตออกมา นั่นก็ทำให้ส่วนที่เหลือฉายบน Daisuki.net มีแค่อนิเมะที่ไม่ถูกใครซื้อสิทธิ์ไปซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นแนวเรื่องที่ไม่มีบริษัทไหนสนใจเสียมากกว่า
ไม่ใช่ว่า Daisuki.net ไม่พยายามเข็นอนิเมะมาเพิ่มเลย Dragon Ball Z Super ถือว่าเป็นเนื้อหา Exclusive ที่รับชมง่ายๆ ทางบริการของพวเขา และยังมีการเข็นเอาอนิเมะเก่าๆ จำนวนมากออกมาฉายออนไลน์ อย่าง Prince Of Tennis หรือ Gundam ZZ ทว่าอนิเมะกลุ่มนั้นไม่ได้รับความนิยมจากผู้ชมเท่าอนิเมะใหม่ๆ หรือผู้ชมฝั่งโลกตะวันตกที่เป็นเป้าหมายในการทำตลาดเท่าไหร่นัก
เมื่อผลลัพธ์ของการปรับตัวตามตลาดแต่ละครั้งของ Daisuki.net จบลงด้วยความล้มเหลว กับตลาดที่ขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ และมีหลักฐานให้เห็นอยู่ไม่มากว่าบริการนี้จะมีทางรอดที่ดีขึ้น ทาง Bandai Namco จึงเลือกทาง ‘เจ็บแต่จบ’ เพื่อลดความเสียหายจากธุรกิจตัวนี้ให้น้อยที่สุด ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายไม่น้อยเพราะมีหลายประเทศที่ไม่มีผู้ให้บริการรับชมออนไลน์เจ้าได้เข้าถึง ใช้ Daisuki.net เป็นช่องทางรับชมลิขสิทธิ์ที่เดียวเท่านั้น ก็ได้แต่หวังว่าผู้ให้บริการจากประเทศญี่ปุ่นจะสามารถกระโดดเข้ามาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ได้ในอนาคต
Leave a Reply