Shueisha, Kodansha, Shogakukan, Kadokawa ชนะคดีละเมิดลิขสิทธิ์กับทาง Cloudflare

Share

ศาลเขตโตเกียวได้ทำการตัดสินคดีเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า ทาง Cloudflare บริษัทรักษาความปลอดภัยและผู้วางพื้นฐานระบบให้กับเว็บไซต์ต่าง ๆ มีความผิดจริงในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ที่มีทางโจทก์เป็นสี่บริษัทสิ่งพิมพ์ใหญ่ของญี่ปุ่น Shueisha, Kodansha, Shogakukan, และ Kadokawa ยื่นฟ้องมาตั้งแต่ช่วงปี 2022

ทางศาลได้พิจารณาให้ Cloudflare ต้องชำระค่าเสียหายมูลค่า 3,600 ล้านเยน อย่างไรก็ตามเนื่องจากทางสี่บริษัทสิ่งพิมพ์ ระบุว่าความเสียหายที่เกิดจากการละเมิดลิขสิทธิ์ของทาง Cloudflare เป็นความเสียเพียงแค่บางส่วน ทางศาลจึงสั่งให้ทาง Cloudflare ให้ชำระค่าเสียหายอยู่ที่มูลค่า 500 ล้านเยน

Shueisha, Kodansha, Shogakukan, และ Kadokawa ยังได้ทำการออกแลงการร่วมเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่าการตัดสินดคดีของศาลเขตโตเกียว จะนำไปสู่การป้องกันการใช้งาน CDN หรือ Content Distribution Network (เครือข่ายการกระจายเนื้อหา) อย่างที่ Cloudflare ให้บริการในทางที่ผิด และทางบริษัททั้งสี่จะทำการปกป้องสิทธิกับผลงานของผู้สร้างสรรค์, และจะทำการดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ต่อไป ทางบริษัทยังได้แจ้งผ่านแถลงการณ์ร่วมว่า พวกเขาเชื่อว่า CDN จะเป็นประโยชน์เมื่อถูกนำไปใช้ ‘ส่งมอบเนื้อหาที่ถูกต้องตามกฎหมายสู่ลูกค้า อย่างมีเสถียรภาพและประสิทธิภาพ’

ทาง Shueisha, Kodansha, Shogakukan, และ Kadokawa ทำการดำเนินการทางกฎหมายดังกล่าวตั้งแต่ปี 2022 ประเด็นการฟ้องร้องเกี่ยวกับการที่ Cloudflare ได้ทำการเผยเแพร่ข้อมูลสำหรับเว็บไซต์มังงะละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์สำนักพิมพ์ต่างๆ และมีการตั้งมูลค่าเงินความเสียหายในการฟ้องร้องอยู่ที่ประมาณ 460 ล้านเยน

หลังจากนั้นทาง Kodansha ได้ระบุในคำร้องทางกฎหมายว่า นโยบายของ Cloudflare ขอให้มีเพียงอีเมล์ก็จะสามารถทำการสมัครใช้งานได้ฟรี ซึ่งการกระทำดังกล่าวอำนวยให้เว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์สามารถเกก็บรายได้จากค่าโฆษณาได้ และคำตัดสินของศาลเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ได้มีการเน้นย้ำว่าทาง Cloudflare ขาดความรับผิดชอบ จากการที่ไม่มีขั้นตอนการยืนยันตัวตนที่เข้มงวด

ก่อนหน้านี้แหล่งข่าวของ หนังสือพิมพ์ Asahi Shimbun กับทางสำนักข่าว Kyodo ระบุว่าทาง Cloudflare ได้ทำสัญญาที่จะส่งต่อข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์ในประเทศญี่ปุ่น แม้ว่าตัวแอดมินของเว็บไซต์มังงะเถื่อนจะอยู่นอกประเทศญี่ปุ่นก็ตามที ทางเว็บไซต์มังงะเถื่อนที่ถูกกล่าวหานั้นทำการเผยแพร่มังงะเถื่อนราว 4,000 เรื่อง (รวมถึงผลงานดังอย่าง One Piece, ผ่าพิภพไททัน, และ Kingdom) และมีการเข้าถึงเว็บไซต์มังงะเถื่อนดังกล่าวราว 300 ล้านครั้ง ต่อเดือน

เบื้องหลัง

นอกจากการให้บริการแบบต่างๆ แล้ว ทาง Cloudflare ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่าง เซิร์ฟเวอร์ กับ ผู้ใช้งานปลายทาง ในการส่งต่อเนื้อหาแม้ว่าเซิร์ฟเวอร์ต้นทางจะปัญหาในการเชื่อมต่อ หรือจะได้รับการโจมตีโดยปฏิเสธการให้บริการแบบกระจาย (DDoS Attack) ก็ตามที

เว็บไซต์ Mangamura เปิดตัวในปี 2016 ก่อนที่ทางการญี่ปุ่นได้รายงานเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2018 ว่าพวกเขากำลังทำการสืบสวนเกี่ยวกับเว็บไซต์ Mangamura หลังจากทาง Kodansha และสำนักพิมพ์อื่นๆ อีกสามแห่งได้ทำการแจ้งความผ่านทางกรมตำรวจประเทศญี่ปุ่นในช่วงฤดูร้อน จนถึงช่วง ฤดูใบไม้ร่วงปี 2017

ทนายของกลุ่มบริษัทสื่อสิ่งพิมพ์ Kodansha, Shueisha, Shogakukan, และ Kadokawa ได้ยื่นเรื่องดำเนินการทางกฎหมายไปกับศาลเขตโตเกียว ในช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2018 เพื่อเรียกร้องให้ Cloudflare ยุติการเก็บเนื้อหาของเว็บไซต์อ่านมังงะเถื่อน ซึ่งตัวเว็บอ่านมังงะเถื่อนที่ใช้บริการของทาง Cloudflare นั้นก็มีเว็บไซต์ Hoshi No Romi ที่เป็นเว็บไซต์ ‘ทายาทของ Mangamura’ อยู่ด้วย ทั้งสี่บริษัทสื่อสิ่งพิมพ์ ได้ทำการยื่นฟ้องต่อแอดมินของทาง Hoshi No Romi กับทางศาลเขตนิวยอร์คตอนใต้เมื่อวันที่ 4 กันยายน ปี 2019

เว็บไซต์ Shuppan Koho Center หรือเว็บไซต์ขององค์กรตัวแทนสำนักพิมพ์ ที่จัดทำหนังสือลิขสิทธ์ได้ประกาศข่าวออกมาว่า บริษัทสำนักพิมพ์ในญี่ปุ่น Kadokawa, Kodansha, Shueisha, และ Shogakukan ได้บรรลุผลการเจรจากับทาง Cloudflare บริษัทรักษาความปลอดภัยและผู้วางพื้นฐานระบบให้กับเว็บไซต์ต่างๆ ที่เริ่มเจรจามาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2019 ซึ่งทาง Cloudflare ได้ตกลงที่หยุดการเก็บไฟล์แคช (Cache) บนเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น สำหรับเว็บไซต์อ่านมังงะเถื่อน หากทางศาลเขตโตเกียวได้ทำการตัดสินว่าเว็บใดทำการละเมิดลิขสิทธิ์จริง

Shueisha, Kodansha, Kadokawa และ Shogakukan ได้ร่วมกันยื่นฟ้องต่อศาลเขตนิวยอร์คตอนใต้เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2019 โดยเป็นการยื่นฟ้องแอดมินของเว็บไซต์ Hoshi No Romi กับเว็บอื่นๆ อีกสามแห่งที่มีโฮสต์อยู่ในอเมริกา ฝ่ายสำนักพิมพ์ที่เป็นโจทก์ได้อ้างว่าเว็บไซต์เหล่านั้นได้ทำการเก็บเอาสแกนของมังงะมากกว่า 93,000 เล่มเอาไว้

ทางสำนักพิมพ์ Takeshobo ของญี่ปุ่น กับกลุ่มนักเขียนการ์ตูนเพศชายได้ร่วมกันทำการฟ้องบริษัท Cloudflare โดยยื่นคำฟ้องที่ระบุว่า Cloudflare มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรละเมิดลิขสิทธิ์ด้วยการเสนอบริการให้กับเว็บไซต์มังงะเถื่อน ที่ทำให้ทาง Takeshobo กับผู้เขียนมังงะได้รับความเสียหาย และทาง Takeshobo ได้หาทางให้ทำการลบช้อมูลของมังงะเรื่องดังกล่าวที่เก็บไว้อยู่บนเซิร์ฟเวอร์ของ Cloudflare ออกไปเป็นการชั่วคราว

ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2021 ทางศาลเขตแคลิฟอร์เนีย ได้ทำการอุนมัติให้ทาง Google กับบริษัทผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตเจ้าอื่นๆ ส่งข้อมูลให้กับทางศาล ตามคำร้องขอ ที่ทาง Shueisha เคยขอหลักฐานเกี่ยวกับเว็บไซต์มังงะเถื่อนชื่อ Manga Bank เพื่อการจับกุมในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ สำนักพิมพ์ทั้งสี่แห่ง ซึ่งมี Shueisha อยู่ในกลุ่มดังกล่าวด้วย