Mamoru Hosoda เจ้าของผลงาน Summer Wars เตรียมสร้างภาพยนตร์อนิเมะเรื่องใหม่ฉายปีหน้า

Share

นิตยสาร Variety ของสำนักข่าว DebutEntertainment ได้รายงานว่าภาพยนตร์เรื่องต่อไปของ Mamoru Hosoda ใช้ชื่อว่า Mirai ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคมปี 2018 ผู้กำกับ Hosoda เคยสร้างกระแส และประสบความสำเร็จในการสร้างรายได้จากภาพยนตร์อนิเมะมามากมาย อย่าง The Girl Who Leapt Through Time, Summer Wars และ Wolf Children คู่จี๊ดชีวิตอัศจรรย์

เรื่องย่อ:

เรื่อง Mirai ได้กล่าวถึงเด็กน้อยวัย 4 ขวบ ที่มีความพยายามในการรับมือกับการมีน้องสาวคนเล็กในครอบครัว จนกระทั่งเวทมนตร์ได้เปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ไป ความลับภายในสวนหลังบ้านของเด็กชายคนนี้กลายเป็นประตูที่นำเด็กน้อยเดินทางย้อนเวลากลับไป และได้พบกับแม่ของเขาตอนที่ยังเด็ก และปู่ของเขาตอนหนุ่มๆ การผจญภัยที่เปี่ยมไปด้วยจินตนาการจะช่วยให้เด็กน้อยเปลี่ยนมุมมองใหม่ และช่วยให้เขากลายเป็นพี่ชายที่ดีได้

Hosoda ผู้กำกับจาก Studio Chizu ที่ได้จัดตั้งสตูดิโอแห่งนี้เมื่อปี 2011 ในการผลิตภาพยนตร์เรื่อง Wolf Children คู่จี๊ดชีวิตอัศจรรย์ และ The Boy and the Beast ศิษย์มหัศจรรย์กับอาจารย์พันธุ์อสูร

Charades ฝ่ายขายโฆษณาในต่างประเทศใหม่นั้นเปิดตัวโดย Carole Baraton (ก่อนหน้านี้ที่ Wild Bunch) , Yohann Comte และ Pierre Mazars (ก่อนหน้านี้ที่ StudioCanal) เป็นตัวแทนของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่งาน Cannes Film Festival ที่จัดขึ้นเดือนนี้ Comte ได้ทำการขายภาพยนตร์ผลงานก่อนหน้านี้ที่มีชื่อว่า The Boy and the Beast ของ Hosoda ศิษย์มหัศจรรย์กับอาจารย์พันธุ์อสูร เมื่อตอนที่เขาเป็นรองผู้อำนวยการฝ่ายขายที่ Gaumont โดยทาง Nippon TV จะจำหน่ายภาพยนตร์เรื่องนี้ในญี่ปุ่น

เมื่อตอนที่ Hosoda ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Variety เกี่ยวกับรูปแบบของภาพยนตร์เรื่องใหม่นี้ จะเป็นเรื่องราวของ “พี่น้อง” ที่ยังคงเน้นไปที่ช่วงวันของ “หนุ่มสาว” เหมือนอย่างภาพยนตร์เรื่อง The Girl Who Leapt Through Time กลิ่นไอความเป็น “ครอบครัว” จาก Summer Wars “ความเป็นแม่” จาก Wolf Children คู่จี๊ดชีวิตอัศจรรย์และ “ความเป็นพ่อ” จาก The Boy and the Beast ศิษย์มหัศจรรย์กับอาจารย์พันธุ์อสูร

Hosoda ได้กล่าวว่าภาพยนตร์เรื่องใหม่สร้างมาจากประสบการณ์ของเขาในฐานะพ่อ จะสังเกตได้ว่า “Mirai” (ซึ่งแปลว่า “อนาคต”) นั้นเป็นทั้งชื่อของตัวละครที่เป็นน้องสาว และชื่อภาพยนตร์ ซึ่งเป็นชื่อเดียวกันกับลูกสาวของเขาเอง เขายังกล่าวต่ออีกว่าความขัดแย้งในภาพยนตร์เรื่องนี้ได้สะท้อนประสบการณ์ชีวิตจริงของเขาในฐานะลูกชายคนโตที่รู้สึกกับพี่น้องคนใหม่ “แย่งพ่อแม่เธอมา ซึ่งทำให้เธออิจฉาเป็นอย่างมาก” เขายอมรับว่าภาพยนตร์เรื่องใหม่นี้ใกล้เคียงกับเรื่องราวชีวิตคนจากเรื่อง The Girl Who Leapt Through Time และ Wolf Children คู่จี๊ดชีวิตอัศจรรย์ แต่จะมีการดำเนินเรื่องราวเหมือนกับ Summer Wars และ The Boy and the Beast ศิษย์มหัศจรรย์กับอาจารย์พันธุ์อสูร

Hosoda ยังกล่าวอีกว่าเขาได้ทำการเขียนบทภาพยนตร์เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ได้ฟัง “ความคิดเห็นต่างๆ และประสบการณ์มากมายจากโปรดิวเซอร์”

The Boy and the Beast ศิษย์มหัศจรรย์กับอาจารย์พันธุ์อสูร ได้เปิดตัวเป็นอันดับ 1 ของบ็อกออฟฟิศญี่ปุ่นเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2015 และทำรายได้ถึง 667,035,100 เยน (หรือประมาณ 189 ล้านบาท) ในสองวันแรกที่เข้าฉาย ในที่สุดก็สามารถทำรายได้แซงหน้าภาพยนตร์ในบ็อกออฟฟิศเรื่องก่อนหน้านี้ของ Hosoda อย่าง Wolf Children คู่จี๊ดชีวิตอัศจรรย์ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ที่สามารถทำรายได้ในสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของภาพยนตร์ในประเทศของญี่ปุ่นเมื่อปี 2015

ในปี 2015 งานเทศกาลภาพยนตร์ Tokyo International Film Festival ได้มอบรางวัลให้กับ Hosoda เพื่อเป็นการขอบคุณสำหรับผลงานที่สร้างขึ้นมาเพื่ออุตสาหกรรมภาพนยนตร์ของญี่ปุ่น เมื่อปีที่แล้วนั้นงานเทศกาลภาพยนตร์ได้จัดนิทรรศการผลงานเก่าๆ  ของเขาจากผลงานตั้งแต่ภาพยนตร์โทรทัศน์สำหรับเด็กไปจนถึงเรื่อง The Boy and the Beast ศิษย์มหัศจรรย์กับอาจารย์พันธุ์อสูร

ที่มาVariety (Elsa Keslassy, Patrick Frater) (link 2, Elsa Keslassy)

About Anime News Network Thailand 1863 Articles
หากท่านต้องการดึงข่าวไปยังเว็บไซต์ บล็อก หรือเพจของท่าน กรุณาใส่เครดิตและลิงก์กลับมายัง news.dexclub.com ด้วยค่ะ

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*