เผยโฉม Mario Segale ชายผู้เป็นที่มาของชื่อ Mario ตัวละครในเกมจากค่าย Nintendo

Mario นั้นแทบจะเรียกได้ว่าเป็นตัวละครจากเกมที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่จะมีซักกี่คนที่รู้ที่มาของชื่อ “Mario” กันล่ะ?

เรื่องราวย้อนกลับไปเมื่อช่วงปี 1980 Nintendo ได้ตั้งสำนักงานใหญ่ สาขา USA บริเวณนอกเมือง Seattle และเจ้าของอาคารสำนักงานที่ทาง Nintendo ได้เช่าพื้นที่อยู่คือ Mario Segale ชายผู้ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับชื่อตัวละครจากซีรี่ย์เกมชื่อดัง ซึ่งเขาได้สร้างความประทับใจให้กับทีมงานเมื่อวันที่เขาเดินเข้าไปในสำนักงานเพื่อทวงถามค่าเช่าที่เกินกำหนดชำระนั่นเอง

หน้าตาของนาย Mario Segale

【訃報】任天堂「マリオ」の名前の由来となったマリオ・セガールさんが死去 https://t.co/c0YuaU5XiU pic.twitter.com/4o5EBtluaO

— Almz presents trend (@AlmzTrend) November 3, 2018

ก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ Nintendo ตั้งชื่อตัวละครว่า “Jumpman” เพราะฉะนั้นบอกได้เลยว่าการเปลี่ยนมาใช้ชื่อ “Mario” แทนเรียกได้ว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีเลยทีเดียว

▼ Mario นั้นปรากฏตัวครั้งแรกในเกมตู้ที่มีชื่อว่า Mario Bros ในปี 1983

Played on the original Mario Bros arcade machine for the first time and got the high score. These childrens never saw me coming. #MyScoresNotReallyThatBigButItsTheHighScoreSoLetMeHaveThis pic.twitter.com/WbvWC7sr58

— IvanMan64 (@IvanSixtyFour) June 16, 2018

และพัฒนาต่อยอดลงให้กับเครื่อง NES ในเกม Super Mario Bros ในปี 1985

ตัว Mario Segale เองนั้นเกิดที่เมือง Seattle เมื่อปี 1934 โดยเป็นเจ้าของบริษัทก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง และถึงแม้ว่าเขาจะเป็นนักธุรกิจผู้มีกิจการหลายรูปแบบ แต่จริงๆแล้วเขาก็มิได้เคยเป็นช่างประปาเหมือนในเกมแต่อย่างใด

Mario Segale เองก็ไม่เคยต้องการชื่อเสียงหรือป่าวประกาศว่าเขามีส่วนร่วมกับเกม Mario Series เลย เขาเลือกที่จะอยู่เงียบๆ และประสงค์ให้ตัวเขาเองเป็นที่จดจำเฉพาะกับความสำเร็จในหน้าที่การงานของเขาเท่านั้น มีเพียงครั้งเดียวที่เขาพูดถึงเกี่ยวกับการที่ชื่อเขาถูกใช้ไปกับซีรี่ย์เกมชื่อดังจาก Nintendo คือเมื่อครั้งที่เขาให้สัมภาษน์ในปี 1993 กับ Seattle Times เมื่อเขากล่าวติดตลกว่า “จะพูดว่าผมยังรอค่าตัวในส่วนของผมอยู่ก็ได้นะ”

Segale จากไปในขณะที่อยู่กับภรรยาโดยมีลูกสาวด้วยกัน 3 คน และมีหลาน 9 คน และปัจจุบันเขาเสียชีวิตแล้วด้วยวัย 84 ปี

ที่มา: NHK News Web โดย My Game News Flash, Hachima Kiko, The New York Times

ภาพประกอบ: Twitter/@AlmzTrend