Answerman : เลิฟโฮเต็ล คืออะไร ?

Share

Albatros ถาม :

ถ้าการ์ตูนหรืออนิเมะแนวรักๆ ใคร่ๆ มักจะมีฉากที่เกี่ยวกับ ‘เลิฟโฮเต็ล’ เป็นเรื่องปกติของญี่ปุ่นที่จะไปใช้บริการเลิฟโฮเต็ลแทนโรงแรมปกติงั้นเหรอ ? คนญี่ปุ่นเขามองมันว่าเป็นสถานที่ทั่วไปหรือว่าเป็นสถานที่่อโคจรกันนะ ?

Rabuho No Ueno San หนึ่งในการ์ตูนที่มีฉากหลังเป็น เลิฟโฮเต็ล อย่างชัดเจน / ภาพจาก – amazon.com

เลิฟโฮเต็ลนั้นมีอยู่ทั่วทุกหนแห่งในประเทศญี่ปุ่น โดยปกติก็จะถูกดีไซน์ออกมาไว้สำหรับกิจกรรมบนเตียง ชาร์จค่าเช่าห้องเป็นรายชั่วโมง คืนกุญแจห้องได้ที่ตู้เก็บกุญแจอิเล็กโทรนิกแทนที่จะมีพนักงานต้อนรับ และตัวห้องก็จะมีหลากสไตล์ ตั้งแต่งแบบตกแต่งให้มีบรรยากาศแฟนซีเบาๆ จนกระทั่งแต่งห้องระดับเปลี่ยรบบรยากาศไปกันคนละโลก ส่วนใหญ่ห้องจะไม่มีหน้าต่างให้เห็นวิวสวยๆ หรือมีที่จอดรถชัดๆ ถ้าจะมีที่จอดรถก็เป็นรั้วสูงๆ กันไม่ให้เห็นรถง่ายๆ (ถ้าเทียบกับในไทยคงประมาณ โรงแรมม่านรูด นั่นเอง)

เลิฟโฮเต็ล ‘อัณฑะมโหฬารของทานุกิกริ้ว’  / ภาพจาก – couples.jp

เลิฟโฮเต็ลมักจะถูกมอกจากคนต่างชาติว่าเป็นมุม ‘บ้าคลั่งของคนญี่ปุ่น’ เพราะว่าสไตลของเลิฟโฮเต็ลนั้นเวอร์วังอลังการมากๆ แถมยังตั้งชื่อแปลกๆ อย่าง กล้วย & โดนัท (Banana & Donut), อัณฑะมโหฬารของทานุกิกริ้ว (暴れ狸の鬼袋), เพื่อนกันเฉพาะตอนกลางวัน (Daytime Friend), ตำนานของบีเวอร์ผู้ใสซื่อ (Legend of the Innocent Beaver) หรือ บ้านซานต้า (Santa’s House) ตัวอาคารก็มักจะถูกสร้างเป็นป้อมปราการไร้หน้าต่างในรูปทรงแบบต่างๆ อย่าง ปราสาท, เรือ, ยานอวกาศ หรือเป็นสวนสนุกขนาดเล็ก (ไม่ใช่ว่าทุกแห่งจะออกมาอลังการแบบนี้ ที่หยิบมาพูดถึง ณ ที่นี้เป็นส่วนที่เด่นๆ เท่านั้น)

ภายในสถานบริการเหล่านี้่ก็หวือหวาไม่ต่างกับรูปลักษณ์ภายนอก หลายๆ แห่งมักจะมีร้านของเล่นสำหรับผู้ใหญ่อยู่ตรงล็อบบี้โรงแรม ส่วนห้องพักแต่ละห้องก็ถูกตกแต่งมาในทิศทางที่เกิดจะคาดเดา อย่างเช่น จัดห้องเป็นห้องเรียนในโรงเรียนญี่ปุ่น, กรงนกขนาดยักษ์, ทำห้องจำลองเป็นตู้คีบตุ๊กตา หรือทำห้องเลียนแบบร้านอาหารฟาสท์ฟู้ด ตัว Answerman เองเคยเห็นห้องที่จัดสีสันฉูดฉาดเหมือนภาพสมุดระบายสีสำหรับเด็ก ที่มีภาพสายรุ้งและยูนิคอร์นวาดอยู่ตามผนังและแพดาน บางอันก็จัดห้องมาเหมือนอยู่ในป่า หรือบางห้องก็จัดสไตล์ห้องแบบห้องนอนเด็กที่ชอบ เฮลโหลคิตตี้ แล้วก็ยังมีห้องที่ติดตั้งสไลเดอร์สำหรับสระน้ำไว้ในห้องด้วย

ลักษณะภายนอกอันอลังการของเลิฟโฮเต็ล / ภาพจาก – Kotaku.com.au

ในขณะที่หลายๆ คนอาจจะรู้สึกเขินๆ ที่จะให้คนเห็นว่าเดินเข้าหรือเดินออกจากเลิฟโฮเต็ล แต่ความจริงมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ขนาดนั้น ด้วยเหตุที่ว่าบ้านของคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่มีขนาดไม่ใหญ่โตและมักจะต้องอาศัยอยู่กันหลายๆ คนร่วมกับคนในครอบครัว บอกแบบนี้แล้วคุณคงพอจะนึกออกได้ว่าการจะกุ๊กกิ๊กหรือทำอะไรกันในบ้านแบบนั้นก็ดูยากลำบากอยู่สักหน่อย เลิฟโฮเต็ล จึงเป็นทางเลือกที่ดียิ่งสำหรับการก่อกิจอัศจรรย์โดยไม่มีใครมารบกวนภารกิจรัก ถึงอย่างนั้นด้วยความเป็นส่วนตัวจัดๆ ของเลิฟโฮเต็ลทำให้อาชญากรมีโอกาสที่จะเลือกใช้สถานที่เหล่านี้ก่อกิจ (ทั้งในเชิงเพศหรือในเชิงอื่น) จนทำให้ภาพลักษณ์เชิงลบนิดๆ ของเลิฟโฮเต็ลไปปรากฏอยู่ในละครตำรวจของญี่ปุ่นอยู่บ่อยๆ

เลิฟโฮเต็ล ที่ตั้งใจสร้างให้คนทั่วไปใช้ (แยกกับ ‘ซ่อง’ ที่มีการค้าบริการทางเพศ) เริ่มมีให้บริการในช่วงปี 1920-1930 ในฐานะโรงแรมราคาถูกที่เน้นการเช่าพักแบบชั่วคราวรายชั่วโมงมากกว่าการค้างคืน ส่วนใหญ่โรงแรมสไตล์นี้ถูกปิดตัวไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ก่อนจะกลับมาบูมอีกครั้งหลังสงครามสิ้นสุด เมื่อโรงแรมถูกสร้างขึ้นมาใหม่ในโซนแหล่งท่องเที่ยวยามราตรี จนกระทั่งชาวญี่ปุ่นเริ่มข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังประเทศอื่นในช่วงปี 1960 – 1970 แล้วพวกเขาพบว่าโรงแรม (มวลรวม) ของเขามันดูสกปรกอัตคัดเกินไป พอมาแบบนี้กลุ่มนักธุรกิจที่คิดเห็นตรงกันก็เลยทำการรีโนเวตโรงแรมใหม่ให้ไฉไลอลังการ ซึ่งเลิฟโฮเต็ลก็ทำการปรับตัวตามกระแสนี้ด้วยเช่นกัน

เลิฟโฮเต็ล ที่มีม้าหมุนขนาดเล็กใช้งานได้จริง / ภาพจาก – Cavemancircus.com

แต่ในยุค 1970 เจ้าของเลิฟโฮเต็ลไม่สามารถทำการโฆษณาแหล่งนัดพบลับๆ ของคู่รักได้อย่างเปิดเผย พวกเขาจึงเลือกที่จะสร้างอาคารภายนอกให้ดูเตะตา เพื่อเป็นการโฆษณาตัวเองไปในตัว และด้วยสารพัดอุปกรณ์สมัยใหม่ที่ออกมาในยุคนี้ก็ยิ่งทำให้เจ้าของเลิฟโฮเต็ลตกแต่งภายในอาคารให้น่าจดจำมากยิ่งขึ้น ด้วยการมอบสิ่งที่ลูกค้าอยากได้จากใจลึกๆ แบบเต็มเปี่ยม ไมว่าจะเป็นแต่งสั่นได้, ม้าหมุนขนาดเล็กภายในห้องพัก ฯลฯ การตกแต่งแบบสุดปลายเท้าแบบนี้นี่เองที่ทำให้คนอื่นเห็นแล้วต้องเสียสติเมื่อได้เห็น

พอเข้ามายุค 1980 การโฆษณาเลิฟโฮเต็ลนั้นไม่ใช่เรื่องต้องห้ามเท่าเดิมแล้ว จึงมีการใส่เครื่องเล่นคาราโอเกะหรือเครื่องเกมเข้าไปในห้องเพื่อให้ห้องยังไฮเทคอยู่ และในยุคนี้เลิฟโฮเต็ลก็ไม่ได้บ้าสุดโต่งแบบยุคก่อนหน้าแล้ว พวกเขาเริ่มออกแบบโดยใส่ใจความรู้สึกของฝ่ายหญิง (ที่มักจะเป็นฝ่ายเลือกโรงแรม) มากยิ่งขึ้น และข้อบังคับทางกฎหมายทำให้การสร้างโรงแรมเพื่อตอบสนองเรื่องเพศโดยสมบูรณ์แบบนั้นยากเย็นขึ้น จนทำให้ช่วงปีหลังๆ นี้ โรงแรมธรรมกับเลิฟโฮเต็ลมีความแตกต่างกันน้อยลง แน่นอนว่ายังมีเลิฟโฮเต็ลที่หลุดโลกสุดโต่งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นแบบนั้นทุกๆ เลิฟโฮเต็ล ที่จะหลุดโลกแบบนั้นแล้ว

และด้วยกระแสท่องเที่ยวในญี่ปุ่นที่บูมมากขึ้นจนทำให้ห้องพักตามโรงแรมหาได้ยากเย็นขึ้นนั้น นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งจึงเลือกใช้เลิฟโฮเต็ลเป็นที่พักธรรมดา ถ้าคุณไปกับเพื่อนที่เปิดใจ (ในการท่องเที่ยว) รับรองได้ว่าการเข้าพักในเลิฟโฮเต็ลจะให้ความบันเทิงแบบสุดๆ และยืนยันได้เลยว่าการที่ห้องไม่มีหน้าต่างให้เห็นภายนอกจะทำให้คนนอนหลับสนิทโดยไม่มีปัญหาจากโลกภายนอกมารบกวน แต่คุณอาจจะได้ยินเสียงลอดผ่านกำแพงห้องแทน ถ้าเกิดคุณอยากตามติดว่าเสียงข้างห้องเขาทำอะไรกัน Answerman ขอแนะนำให้พกแบล็คไลท์ติดตัวไปด้วยนะ

เรียบเรียงจาก – Answerman – What’s Love Hotel

 

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*