วัยรุ่นญี่ปุ่นทำทีอาสาช่วยหญิงชราจับโจรวิ่งราว แต่จริงๆ แล้วเป็นพวกเดียวกับโจรซะเอง

Share

ตำรวจญี่ปุ่นประจำจังหวัด Aichi ได้รับรายงานในช่วงกลางคืนเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ว่ามีหญิงชราอายุ 73 ปี ซึ่งในระหว่างที่เดินอยู่ในพื้นที่ Nakagawa ในเขต Nagoya ได้ถูกเด็กวัยรุ่นอายุประมาณ 14-15 ปี วิ่งราวกระเป๋าถือ 2 ใบซึ่งแน่นอนว่าด้วยอายุแล้วหญิงชราไม่มีทางที่จะไล่ตามได้เลย

แต่เหมือนว่าเธอยังมีโชคอยู่ เมื่อในบริเวณจุดเกิดเหตุได้มีเด็กหนุ่มเห็นเหตุการณ์และวิ่งเข้ามาบอกเธอว่า “เดี๋ยวผมไล่ตามไปเอากระเป๋าให้ ช่วยรออยู่ตรงนี้ก่อนนะครับ” แล้วเด็กหนุ่มที่เหมือนกับพ่อพระมาโปรดเธอก็เร่งติดตามคนร้ายไป

แต่แล้วเด็กหนุ่มที่แสนดีคนดังกล่าวก็ไม่กลับมา อาจจะเป็นไปได้ว่าการที่เป็นคนดีก็ไม่ได้แสดงว่าจะวิ่งเร็วพอที่จะตามจับคนร้ายได้ แต่อย่างน้อยถ้าคนร้ายวิ่งหนีไปได้ก็น่าจะกลับมาบอกเธอรึเปล่า? เนื่องจากเด็กหนุ่มคนดังกล่าวบอกให้เธอรออยู่ตรงนั้น

ความเป็นจริงคือเด็กหนุ่มที่อาสาจับโจรคนดังกล่าวไม่ได้ล้มเหลวแต่อย่างใด หากแต่เป็นความสำเร็จในการร่วมมือกันขโมยกระเป๋าจากหญิงชรานั่นเอง ซึ่งเมื่อเด็กหนุ่มฮีโร่คนดังกล่าวไม่ได้กลับมา หญิงชราได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ และเมื่อวันที่ 19 กันยายน ทางตำรวจได้มีประกาศความสำเร็จในการจับกุมเด็กหนุ่มฮีโร่กำมะลอคนดังกล่าว ที่เป็นสมาชิกของกลุ่มคนร้ายมาตั้งแต่แรก

จากการจับกุมคนร้ายเป็นเด็กชายอายุ 15 ปี 2 คนจาก Nagoya และ อายุ 14 ปี 1 คนจาก Oharu ซึ่งเป็นเมืองข้างเคียง Nagoya (ทางตำรวจไม่ได้มีการเปิดเผยว่าเด็กคนใดรับบทเป็นฮีโร่) ซึ่งจากการที่ให้ 1 คนในกลุ่มทำทีเป็นฮีโร่ช่วยจับโจร เด็กกลุ่มดังกล่าวหวังว่าจะเป็นการซื้อเวลาเพียงพอที่จะให้เพื่อนในกลุ่มสามารถหลบหนีการจับกุมจากตำรวจได้ทันเวลา

จากการสอบสวนเพิ่มเติมปรากฏว่าเด็กหนุ่มกลุ่มนี้ได้รู้จักกันทาง Twitter และต้องการเงินไปเที่ยว ทางตำรวจได้พบหลักฐานเป็นกระเป๋าและข้าวของเครื่องใช้ที่ซึ่งเป็นของหญิงชราผู้เคราะห์ร้าย รวมมูลค่ากว่า 15,200 เยน

เป็นเรื่องน่าเศร้าที่หญิงชราต้องตกเป็นเหยื่อของอาชญากกรรมดังกล่าว อีกทั้งยังถูกคนที่น่าจะเป็นคนที่ช่วยเหลือเธอหลอกลวงเข้าอีกรอบ เรียกได้ว่าที่เสียทรัพย์และเสียความรู้สึกกันไปในคราเดียวเลย และเมื่อเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า Kamen Rider ที่โผล่มาช่วยเรานั้นจะเป็นพวกเดียวกับโจรรึเปล่า ทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือแจ้งตำรวจนี่แหละ

ที่มา: Yahoo! Japan News/Asashi Shimbun Digital โดย Hachima Kiko

ภาพประกอบ: Pakutaso

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*